Thursday, July 31, 2008

สัมพันธภาพมีอายุขัย

ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือร้าย
สัมพันธภาพมีอายุขัย

อาจจะมีบ้างที่เป็นข้อยกเว้น
แต่น้อยเหลือเกิน

คนเมืองกรุง
จึงเป็นคนไร้เพื่อนสนิท
และไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า
ต่างคนต่างอยู่

แต่ฉันเรียกมันว่า
สัมพันธภาพหมดอายุ

Monday, July 28, 2008

จิปาถะ ๒๒๑๑

อย่าให้ความรักนำทาง

อาจจะฟังดูเป็นพวกองุ่นเปรี้ยว
ออกมาในแนวทางต่อต้านความโรแมนติค
แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า อย่าให้ความรักนำทาง

ที่มาของความคิดแบบนี้ก็เนื่องจาก
เปิดดูละคร ดูหนัง ฟังเพลง
ก็เห็นว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหามันมากมาย
ก็เพราะแต่ละคนใช้ความรักนำทาง
เอาความรักเป็นที่ตั้ง จนเกินไป
เรื่องราววุ่นวายมันก็เลยตามมาซะมากมาย
หากเพราๆลงซะบ้าง ก็อาจจะดี



ฟางเส้นสุดท้าย


เพิ่งอ่านหนังสือชื่อ
อีกหนึ่งฟางฝัน
บันทึกแรมทางของชีวิต
โดย จิระนันท์ พิตรปรีชา

หลังจากอ่านจบ
ก็ต้องไปรื้อหนังสือของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล
ทุกเล่มที่เคยซื้อใว้ ก็เกือบทุกเล่มที่พิมพ์ออกมานั่นแหละ
กลับมาอ่านใหม่ อยากปะติดปะต่อเรื่องราวให้สมบูรณ์
อาจฟังดูเป็นการสนใจเรื่องชาวบ้านเกินเหตุ
ซึ่งความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นแล แหะแหะแหะ

ตอนอ่านหนังสือของเสกสรรค์
ซึ่งจับเรื่องมาเล่าเป็นจุดๆ
การปะติดปะต่อเรื่อง จึงลำบาก
ครั้นจิระนันท์ เล่าเรื่องตามลำดับเวลา
ก็ทำให้เข้าใจที่มาของแต่ละเหตุการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

แต่ที่เกริ่นมาซะยาวไม่ช่ายเหตุผลที่กำลังบันทึก
เพราะสิ่งที่นึกคิดอยู่ตอนนี้คือ
แม้เวลาจะล่วงผ่านไปนาน
สถาณการณ์บ้านเมืองไม่เคยเปลี่ยน

แม้ใครต่อใครจะบอกว่า
ประวัติศาสตร์มักจะหมุนวนกลับมาที่เดิม
แต่ผมกลับรู้สึกว่า
ผ่านมาเกือบสามสิบปี
กงล้อประวัติศาสตร์ยังไม่ได้หมุนไปที่ไหนต่างหาก

เรายังคงถกเถียงกันเรื่องเดิมๆ
ผมไม่เบื่อที่จะแลกเปลี่ยนทรรศนะในเรื่องแบบนี้หรอก
เพียงแต่ผมคิดว่าเรากำลังเดินทางมาถึง
จุดที่เรียกว่า ฟางเส้นสุดท้าย ของทรรศนะที่แตกต่าง
เพราะอีกฝั่งเริ่มที่จะใช้กำลังตัดสินปัญหา

Saturday, July 19, 2008

ความฝันเหรอ .... ยี้

ตอนที่ทำ blog
เคยตั้งใจว่าจะบันทึก
สิ่งที่นึกคิดให้บ่อย
เท่าที่จะทำได้

ลองสังเกตุดู
ความบ่อยหรือมุ่งมั่น
เกิดขึ้นในช่วงต้นๆ
และก็เริ่มห่างหายไป
ห่างหายไป

อาจจะมีเหตุผลร้อยพัน
อาจจะฟังดูหน้าเชื่อเต็มไปด้วยเหตุผล
หรือช่างไร้สาระ
แต่มันก็ทำหน้าที่เป็นเพียงข้ออ้าง
ก็เท่านั้น

เหตุการณ์ทำนองนี้
ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ
กับหลายๆเรื่อง

บางเรื่อง
บางความตั้งใจ
ที่ห่างหาย
จนลืมมันไปแล้ว


หลายเดือนมานี้
ผมพยายามวางแผนเที่ยว
ความตั้งใจอยากไปเห็นที่ต่างๆ
มันยังมีอยู่เต็มเปี่ยม

แต่ความเป็นไปได้ของโอกาสการเดินทาง
เริ่มห่างหาย
จนเหมือนกับว่า
ได้แค่คิด

บางคนบอกว่า
มีฝันอะไรก็จงมุ่งมั่น
เพื่อตามฝันนั้น

มันฟังดูยี้ๆ ยังไงไม่รู้
เวลาใครพูดว่า
มีความฝัน
มันฟังดูเฟื่อๆยังไงไม่รู้

เอาเป็นว่า
ถึงวันนี้
เรายังมุ่งมันกับเรื่องอะไรกันอยู่บ้าง
แล้วข้ออ้างอะไร
กำลังเป็นอุปสรรคของความมุ่งมั่นนั้น


บางทีแค่ความมุ่งมั่นที่จะทำอะไรซะบ้าง
อาจจะจรรโลงโลก
หรือทำให้แผ่นดินต่ำลง
ก็อาจจะดูน่าสนใจ
กว่าการปล่อยให้ชีวิตดำเนินไป
แบบวัน ต่อวัน

ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น
เราก็จะเป็นแค่สิ่งมีชีวิตที่น่าเบื่อหน่ายอีกชนิดหนึ่ง
ก็เท่านั้นเอง