- - ๑ - -
วันอาทิตย์ก่อน
นั่งทำงานตั้งแต่หัวค่ำ
จนกระทั่งยันเช้า
รีบเดินทางไปทำงานต่อ
ทำงานไม่กินข้าวกินปลา
จนกว่างานจะเสร็จก็ราวๆสี่โมงเย็น
จัดการส่งงานเรียบร้อย
ก็อยากให้รางวัลตัวเอง
แวะดูหนัง
เรื่องที่เลือกคือ
No Country of The Old menเหตุที่ดูเพราะชอบชื่อเรื่อง
(ถ้าใครเคยจำเรื่องสิงห์โตชราที่ผมเคยเขียนได้
http://feng010.blogspot.com/2006/09/blog-post.html)
หนังรางวัลออสการ์ปีล่าสุด
เล่าไม่ถูกเลยว่ามันเป็นหนังยังไง
รสชาดของหนังแปลกๆ
การดูหนังแบบนี้
ไม่ได้ทำให้หัวโล่งขึ้นเลย
แต่ก็เป็นการใช้เวลาที่น่าพอใจ
- - ๒ - -
หลังจากดูหนังเสร็จวันนั้น
รู้สึกว่า ประเทศนี้ มัน City for old men
เรายังให้ความสำคัญกับความแก่ในทางอายุอยู่มาก
เด็กๆรุ่นหลังอาจจะต้องทำงานหนัก
เพื่อจะเอาตัวรอดให้ได้
เป็นทั้งกำลังและแรงงานหลัก
ปากเสียงไม่ค่อยมี เพราะยังอายุไม่มากพอ
ใครสักคนที่ลุกขึ้นมาทวงถามความยุติธรรม
จะถูกหาว่าก้าวร้าว
ผมก็เคยได้ยินมานักต่อนัก
ความสูงอายุหมายถึงความรอบคอบ สุขุม
แต่มันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก
ผมเป็นคนหนึ่งที่ก้าวร้าว
และประกาศดังๆในที่ทำงานว่า
No Country for The Old men
เมื่อไหร่ที่คุณเป็นสิงห์โตที่ล่าเหยื่อไม่ได้
คุณก็หมดประโยชณ์ต่อฝูง
อาจจะฟังดูเลวร้าย
แต่นี่มันคือโลกของความจริง
- - ๓ - -
ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์
มีโอกาสเปิดไปดูรายการหนึ่ง
เป็นรายการที่เด็กมัธยมกำลังจะจบมัธยม 6
ในงานปัจฉิมนิเทศ มีการพูดถึงวัยและวัน
ของช่วงเวลานั้น
จู่ๆ ก็เพิ่งรู้สึกว่า
ในแต่ละวัย คนเรามีความทุกข์
และกังวลใจไม่เหมือนกัน
บทเจรจาของนายอำเภอที่แก่ชราเกินจะจับโจร
ใน NO Country for The Old men
มันแสดงให้เห็นว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับอะไร
วัยเด็กมัธยม 6
อาจจะกังวลว่าจะสอบเข้ามหาลัยได้หรือไม่
วัยทำงานอาจจะกังวลในเรื่องความมั่นคง
ความก้าวหน้าของงาน
หรือถ้าไม่เช่นกัน ก็อาจจะกังวลเรื่องคู่ครอง (หุหุหุ)
เราควรจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
ด้วยการไม่พยายามบีบให้คนอื่นต้องกังวลมากขึ้น
ผมกำลังรู้สึกอย่างนี้
- - ๔ - -
เรากำลังจะแก่เฒ่าไปแบบไหนมันมีประโยชณ์อะไร
เราจะภูมิใจในตัวเองไหม
ถ้าวันหนึ่งเราต้องกลายเป็นอะไรบางอย่าง
ที่เราเคยเกลียด