ส ะ ส า ง
ทุกคนต้องการเวลา
เก็บกวาดขยะ
ทั้งภายนอกและภายใน
จากภาระกิจประจำวัน
เราหยุ่งเหยิง
จนขยะรอบกาย
และขยะภายในจิตใจ
สะสม
จนกระทั่งหนังสือที่ให้ความรู้
ก็รวมกันกับเศษเล็กเศษน้อย
ดูไม่ต่างจากกองขยะที่เกลื้อนกลาดไปทั่วห้อง
แค่การพูดจากหยอกล้อ
ฉันท์คนคุ้ยเคย
ก็ทำให้เราโกรธเป็นฝืนเป็นไฟได้
และอยากโต้ตอบ
เพื่อความสาสมในจิตใจ
หาเวลาสักนิด
อยู่เงียบๆ
เก็บทิ้งขยะภายนอก
และพยายามเก็บกวาดขยะภายใน
โลกรอบตัวจะสะอาดขึ้น
โลกภายในจะสดใสเหมือนเดิม
นี่คือทั้งหมดของหนึ่งเดือนตุลาคม
ที่กำลังจะผ่านพ้นไป
เดือนที่ผมกำลังรู้สึกว่า
กระแสของกิจวัตรประจำวัน
กำลังเข้ามาสั่นคลอน
ความมั่นคงทางด้านอารมณ์
ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจ
อุปมาเหมือน เราเคยมั่นใจว่า
เรายืนอยู่อย่างมั่นคง บนที่มั่นที่เราเลือก
แล้ววันหนึ่งก็มีมือที่มองไม่เห็น
มาจับเราให้ยกลอย
แค่โดยลมพัดแรงหน่อย เราก็โอนเอน
โดยที่เราไม่ได้รู้สึกว่า เท้าเรามันกำลังลอยจากพื้น
กลับไปโทษว่าเป็นความผิดของลมที่พัดแรง
ทั้งๆที่ระดับแรงลมระดับนี้
เป็นความรู้สึกสบายที่เราเคยชื่นชอบ
เราจำเป็นต้องก้มมองเท้าเราบ้าง
เพื่อที่จะตรวจสอบว่า
เรายังยืนมั่นคง อยู่ที่มั่นเราหรือเปล่า
และเช่นเดียวกัน
เราต้องให้เวลากับตัวเอง
เพื่อเก็บกวาดตะกอนขุ่นในจิตใจ
ทิ้งขยะที่รกรอบๆตัว
อย่างน้อย
โลกใบเล็กๆที่สวยงามของเรา
ก็ทำให้โลกใบใหญ่ๆนี้สวยงามเช่นกัน
ปล
1 อยากเขียนยาวๆ แต่ขี้เกียจอ่าน
2 คงมีหนังสือมาขายในงานสัปดาห์หนังสือเป็นล้านเล่ม
แต่กระผม เลือกที่อยากอ่านจริงๆ ไม่ได้เลย
ทำไม
3 เป็นไปได้ไหม ที่เราจะคิดและมองเห็นแต่ด้านดีๆของทุกเรื่อง
แล้วการพูดถึงแต่ด้านดีๆ เพียงอย่างเดียว เป็นการโกหกชนิดหนึ่งหรือเปล่า
แล้ว การเตือนภัย ล่วงหน้าคือ คนมองโลกในแง่ร้ายหรือเปล่า