Monday, September 26, 2005

สบายดีอยู่

ทักทายมิตรและสหายทุกท่าน

ไม่มีเวลาไปสังสรรค์
หรือตามข่าวเรื่องไหน

เขียนบ้าง หยุดบ้าง
แต่ไม่ได้ไปไหน
ยังหายใจ
และสบายดีอยู่

การงานสุมหัว
ทั้งงานที่ออฟฟิศ
และงานโรงฝิ่น

Monday, September 19, 2005

วันพักผ่อน

ศุกร์

นัดกินข้าวกับเพื่อนๆประมาณสองทุ่ม
มีเวลาโอ้เอ้ แวะร้านหนังสือ
โดยไม่ได้ดังใจหา
เห็นหนังสือของระจัน
จึงซื้อมาเป็นเจ้าของ

และก็ไปถึงร้านคนแรกตามที่นึกใว้ในใจ
นั่งถ่วงเวลารอด้วยการอ่านหนังสือ
จนรู้สึกว่าถ่วงไม่ไหว
ก็เลยสั่งอาหารมารอ
แล้วก็รู้สึกว่ารอไม่ไหว
ก็เลยกินไปพลางๆ

กว่าเพื่อนจะมา
ข้าวหมดไปสามจาน

ครั้งนี้สมาชิกเหลือแค่สี่คน
ปริมาณลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
ตามกาลเวลา

เมื่อมาครบก็กินและคุย
ซึ่งส่วนมากจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องงาน

กว่าจะเลิกลา
ก็เป็นเวลาตีสี่


วันเสาร์

ทำความสะอาดห้องน้ำ
ซักถุงเท้า
ส่งเสื้อซัก
เปลี่ยนผ้าปูที่นอน
กวาดห้อง
จัดหนังสือ

งานแม่บ้านล้วนๆ
เมื่อไหร่จะมีคนมาช่วยทำซะที

แล้วก็
ตัดผม
นอนฟังเพลง
อ่านหนังสือ ระจัน



วันอาทิตย์


ตั้งใจว่าจะตื่นแต่เช้าไปออกกำลังกาย
แล้วจะเลยไปห้องสมุดมารวย

แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ

ตั้งใจว่าจะไปเดินพันทิพย์
แล้วเลยไปออกกำลังกาย

แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ

ตั้งใจว่าจะไปออกกำลังกาย

แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ

นอน
คือคำตอบสุดท้าย

Wednesday, September 14, 2005

เรื่องธรรมดา

จิปาถะ 57 : ผู้แพ้

ถูกขอร้องให้ช่วยทำบทสัมภาษณ์

ก่อนเริ่ม
ผู้ถูกสัมภาษณ์บอกว่าต้องการพูดอะไร
ข้าพเจ้าแค่เสียความรู้สึก
แต่ก็เข้าใจความต้องการเขา
และอยากให้เขาได้ตามนั้น

เมื่อบทสัมภาษณ์ถูกตีพิมพ์
ผู้ถูกสัมภาษณ์ได้พูดตามที่เขาอยากพูด

ข้าพเจ้ารู้สึกมากกว่า แค่เสียความรู้สึก
และงานนี้ไม่มีใครได้อะไรเลย



จิปาถะ 58 : เรื่องธรรมดา

วันนี้ฝนตก
คนเดินถนนก็ต้องใช้ร่ม
เพื่อเดินทางไปสู่จุดหมาย
โดยที่ร่างกายไปเปียก

นี่คือ เหตุการณ์ธรรมดา

เมื่อทุกคนใช้ร่ม
ทุกคนก็ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

นี่คือ เหตุการณ์ธรรมดา

เมื่อพื้นที่ใช้สอยมีจำกัด
ก็ต้องมีการชนกันของร่ม
การซ้อนกันของร่ม
หรือการเบียดกันของร่ม

นี่คือ เหตุการณ์ธรรมดา

คนเดินถนน
จำเป็นต้องคิดถึงคนอื่นมากขึ้น
แบ่งปันมากขึ้น
ระมัดระวังร่มของตัวเองมากขึ้น

นี่ควรจะเป็นเรื่องธรรมดา

Monday, September 12, 2005

ตัวเอง

จิปาถะ 53 : ขนม

กำลังชอบกินขนมไข่เต่า
เวลากินแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆ
ที่แอบเอาแป้งปาท่องโก๋ของแม่
มาปั้นเล่นเป็นก้อนกลมๆ
(แล้วแม่ก็ทอดให้ด้วย)


จิปาถะ 54 : ภาพยนตร์

ได้มีโอกาสไปดูหนังเรื่อง about love
เป็ยเรื่องรักของคนสามคู่
คู่แรกเป็นจิตกรสาวญี่ปุ่นที่เพิ่งถูกแฟนหนุ่มบอกเลิก
กับนักวาดการ์ตูนจากไต้หวัน ที่กำลังรู้สึกโดเดี่ยว
คู่ที่สองเป็นหนุ่มนักศึกษาญี่ปุ่น
กับสาวไต้หวันที่ยังไม่ลืมแฟนเก่า
และคู่สุดท้ายเป็นนักศึกษาชาวญี่ปุ่น
ที่เดินทางไปเรียนภาษาจีนที่ปักกิ่ง
กับสาวน้อยตาโตลูกเจ้าห้องพัก

รู้สึกว่า นี่คือ
love actually
ภาคตะวันออกนี่หว่า


จิปาถะ 55 : ชีวิต

ในที่สุด เมกะโปรเจ็ค
ก็เริ่มกลับมาเดินเครื่องต่ออีกรอบ
แบบเงียบๆ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
จะหยุดเดินเครื่องอีกเมื่อไหร่


จิปาถะ 56 : ประหลาดใจ

มีคนๆ หนึ่ง
กำลังเล่าถึงรายละเอียดในชีวิต
ของคนอีกคนหนึ่ง
ให้ข้าพเจ้าฟัง

บังเอิญเหลือเกิน
คนที่ถูกพูดถึงนั้น
คือ ตัวของข้าพเจ้าเอง

ข้าพเจ้าได้แต่นิ่งเงียบ
ไม่แน่ใจว่ารู้สึกอย่างไร

เพียงแค่เกิดคำถาม

หรือคนอื่นรู้จักตัวข้าพเจ้า
ดีกว่า
ข้าพเจ้ารู้จักตัวเอง

Friday, September 09, 2005

อยากเขียน

จิปาถะ 50 : รู้สึกดี

เรียกแท็กซี่
บอกจุดหมาย
คนขับรู้ในทันที
แค่นี้ก็รู้สึกดี


จิปาถะ 51 : อาณาจักรส่วนตัว

ชอบเวลาฝนตก
มันดูชุลมุน
ยิ่งได้กางร่มเดินลุยฝนยิ่งชอบ
เหมือนมีอาณาจักรส่วนตัว
ที่เคลื่อนที่ไปกับเราตลอดเวลา


จิปาถะ 52 : ชีวิต

ทำไมคนที่เรียกร้อง
มักจะได้รับตามที่ต้องการ

Monday, September 05, 2005

โรคร้าย

จิปาถะ 30 : ข้อสังเกตุ

ในแถวทหาร
บุคคลที่ยืนข้างหน้า มีสองประเภท
หนึ่งนั้นคือ คนที่มีตำแหน่งสูงกว่า
ส่วนอีกหนึ่งคือ คนที่กำลังถูกลงโทษ


จิปาถะ 31 : ชีวิต

มนุษย์มีรูปแบบของการเอาตัวรอดหลากหลาย
หนึ่งในนั้นคือ การนิ่งเฉย


จิปาถะ 36 : การแสดง

เหมา กำกับต้าเจียห่าว
ภายใต้การอำนวยการสร้างของ มาร์
นรา กำกับ pop eyes
ภายใต้การอำนวยการสร้างของ POP


จิปาถะ 44 : บังเอิญ

ไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุด
บังเอิญได้อ่าน
ถ้อยคำในใจ ...
ซะการีย์ยา อมตยา
กรณีรางวัลกวีเพื่อสันติภาพ
เนื้อหามีประมาณสี่หน้า
พูดถึงกรณีพิพาทสามหน้า


จิปาถะ 45 : กาดำ

ฉันเห็นอีกาอยู่บนต้นไม้
มันเกาะอยู่หน้าบ้านของฉัน
พ่อบอกฉันว่า
อีกาถึงตัวจะดำแต่ใจดี
เพราะมันรักเพื่อน
รู้จักแบ่งปัน

:- จาก ด.ญ. มณทินี ศรีรักษา


จิปาถะ 46 : สกิดใจ

โรคร้ายประจำยุคปัจจุบัน
ไม่ใช่โรคเรื้อน วัณโรค โรครมะเร็ง หรือโรคเอดส์
แต่เป็นโรคที่บุคคลนั้นรู้สึกว่า
ตัวเองไม่มีใครต้องการ
ไม่มีใครห่วงใย
เป็นโรคขาดแคลนความรัก

:- แม่ชี เทเรซา