ฮ ว ง จุ้ ย
วันอาทิตย์
เพื่อนมารับแต่เช้า (จริงๆก็ไม่เช้ามาก แปดโมงนะ)
นั่งรถเพื่อนไปรับซินแส เพื่อไปดูบ้าน
แม้ข้าพเจ้าไม่ใช่ซินแส
แต่มักได้รับเกิยรติไปช่วยดูบ้านเสมอๆ
เพื่อนคนนี้กำลังจะซื้อบ้าน
เงื่อนไขในการเลือกบ้านของมันก็ไม่ได้มากมายอะไร
แค่ราคาพอจ่ายได้ ทำเลพอรับได้ ก็โอเคแล้ว
แต่ เงื่อนไขของคนรอบๆข้างนะสิ
เงื่อนไขของว่าที่ภรรยา บอกว่า
บ้านจะต้องอยู่ในเขตที่เดินทางสะดวก
รถเมลล์ผ่านง่ายๆ ว่างั้นเถอะ
เพราะเธอไม่อยากใช้รถ
ทำเลต้องไม่ไกลจากบ้านเดิมมากนัก
ไม่ห่างจากที่ทำงานมากเกินไป
เงื่อนไขของแม่ว่าที่ภรรยา
ก็แค่ขอบ้านที่อยู่ใกล้ๆบ้านเดิม
ประมาณเดินถึง รั้วติดกันยิ่งดี
แต่บ้านเดิมอยู่กลางเมือง
ติดถนน และเป็นห้องแถว
แค่สองเงื่อนไขของสองคนข้างบน
ก็เป็นโจทย์ที่ยากพอสมควร
ต่อมาก็เป็นเงื่อนไขของที่ครอบครัวมันเอง
ทางครอบครัวไม่อยากให้มันเป็นหนี้
จึงอยากให้ซื้อเงินสด โดยทางบ้านจะออกให้ก่อน
แล้วการผ่อนคืนก็ค่อยว่ากัน
ทางบ้านจึงอยากได้บ้านใหม่ๆ
ขนาดและราคาสมน้ำสมเนื้อสักหน่อย
นอกเมืองสักนิดก็ไม่เป็นไร
บ้านเดี่ยวน่าจะเหมาะที่สุด
เมื่อประกอบโจทย์ข้อนี้เข้าไป
มันก็ดูจะลำบากขึ้นอีกหน่อย
โดยเฉพาะลำบากใจ
เพราะหากเอาเงินที่บ้านเยอะๆ
เพื่อนมันก็บอกว่า ทางฝ่ายผู้หญิงก็อยากให้แต่งปีนี้
เดี่ยวก็ต้องรบกวนเงินทางบ้านอีก
เพราะเงินเก็บก็ไม่ได้มีมากมายอะไร
เป็นหนี้มากก็จะลำบาก
ฟังดูอึดอัดแทน
บอกมันว่า แกอยากแต่งงานใช่ไหม
ถ้าอยากแต่งก็ต้องทน
แต่ถ้าไม่อยากแต่ง
เรื่องวุ่นๆทั้งหมดนี้ ก็แค่เรื่องงี่เง่า
มันบอกว่ามันอยากแต่ง
คนออกความเห็นก็เลยดูงี่เง่ากว่า 555
หลังจากตระเวนดูบ้านมาหลายเดือน
ท้ายที่สุดก็มีหลังที่เข้ารอบสุดท้าย
เป็นบ้านทาวเฮ้าร์ อายุ 10 กว่าปี ราคา 2.2 ล้าน
หลังจากมัดจำไปแล้ว 5 พัน
ซินแส จึงต้องถูกเชิญไปเยี่ยมชม
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
และเพื่อความสบายใจของเจ้าของเงิน
แต่ผลออกมาว่า ซินแสไม่อนุมัติ
ปัญหาหลังจากวันนั้นไม่รู้เป็นอย่างไร
แค่บอกเพื่อนว่า ยังไงก็คิดดีๆ
ประณีประนอมทุกฝ่ายให้ได้
อย่าได้ตามใจแต่ว่าที่ภรรยา
และแม่ของว่าที่ภรรยามากนัก
ฟังๆ ทางบ้านตัวเองบ้าง
เพื่อนมันรู้ว่าเป็นคำเตือนของพวกโสด
และกำลังเกลียดการแต่งงาน
มันก็คงฟังแบบผ่านๆ
กลับมาถึงที่พัก นั่งคิดว่า
ตกลงฮวงจุ้ยของบ้านมัน
ถูกกำหนดด้วยอะไรกันแน่
ความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
หลักการณ์ ทิศทางลม พระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตก
ว่าที่ภรรยา แม่ว่าที่ภรรยา พ่อแม่พี่น้อง หรือตัวมันเอง
แต่ที่แน่ๆ มันลำบากใจที่สุด
คิดเสร็จก็รู้สึกว่าเรื่องของมัน 555
นอนดีกว่า
นอนหลับไปจนเหนื่อย
ก็เลยแวะไปสยามพารากอน
ไปร้านคิโนะคุนิยะ ไปดูหนังสือ ฝึกปรือฝีมือการถ่ายภาพ
เพราะหลังจากผ่านทริปเนปาลแล้วรู้สึกว่า รู้ถ่ายไม่ได้ดังใจ
ระหว่างเดินทางกลับ
เจอเพื่อนนั่งกินกาแฟอยู่
ก็เลยนั่งบ่นเรื่องบ้านของเพื่อนให้มันฟัง
แล้วก็เลยบ่นเรื่องตัวเองไปด้วย
บ่น บ่น บ่น จนเหนื่อย ก็เลยกลับ
ถึงห้องก็หลับ
หมดไปหนึ่งวัน
1 Comments:
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
Post a Comment
<< Home