Friday, February 24, 2006

VERS LE SUD : HEADING SOUTH


- 1 -







"เป็นอะไรหรือเปล่า" นักท่องเที่ยวชาวเยอรมันถามฉัน หลังจากเห็นฉันนั่งซึมๆ มองภาพชีวิตและทิวทัศน์เบื้องหน้า "สวยมาก แต่ฉันรู้สึกเศร้า" ฉันตอบสั้นๆ เธอพยักหน้า พร้อมทั้งย้ำด้วยคำพูดว่า เธอเข้าใจ
ฉันทำหน้าประหลาดใจ เพราะไม่เชื่อว่าเธอจะล่วงรู้ความในใจของฉันได้จริงๆ เธอไม่ปล่อยให้ฉันต้องถามว่า สิ่งที่เธอเข้าใจนั้นมันคืออะไร เพราะเธอเริ่มอธิบายสิ่งที่เธอคิดให้ฟัง

ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพื่อนๆฉัน หรือ ใครๆ ก็ตามหากคุณมีโอกาสได้คุยกับเขา ย่อมเข้าใจความรู้สึกของคุณตอนนี้ เมื่อฉันยังไม่เลิกประหลาดใจ เธอจึงอธิบายต่อ

ฉันรู้สึกชอบที่นี้ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด ภูเขา แม่น้ำ ผู้คน ชีวิตเรียบง่าย ทุกอย่างดูสวยงาม น่ารัก ดูเหมือนเมืองในภาพวาด หากให้ฉันมาเป็นผู้คนที่นี้ ฉันก็คงไม่เลือกหรอก มันอาจจะสวยงามในสายตาของผู้ที่แข็งแรง ในสายตาของผู้ชม แต่คนที่ต้องอยู่กับมันตลอดเวลาอาจจะรู้สึกสุดจะทนแล้ว เธอพยามอธิบาย ช้าๆ

คุณอาจจะรู้สึกเศร้ามากกว่าฉัน เพราะประเทศของคุณแข็งแรงกว่ามากๆ ประเทศฉันไม่ได้แข็งแรงกว่าประเทศนี้นักหรอก คุณคงเคยไปเที่ยว ที่ฉันเศร้าก็คือ การมาของฉัน คุณ หรือนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ มันทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงกว่าที่มันเคยเป็นไหม ฉันพยายามอธิบายยาวๆ บ้าง เธออาจจะไม่เข้าใจที่ฉันพยายามพูด แต่ฉันเชื่อว่าเรากำลังพูดภาษาเดียวกัน

ประเทศของคุณไม่ได้แย่เท่าไหร่หรอก ฉันเคยไปเที่ยวหลายๆ ที่มันแย่กว่าที่คุณกำลังเห็นตรงหน้ามากนัก
เธอพยายามย้ำให้ฉันเชื่อตามเธอ พร้อมทั้งพูดต่ออีกว่า

แม้การท่องเที่ยวมันจะมีข้อเสียหลายอย่าง แต่มันก็มีข้อดีเหมือนกัน อย่างการที่คุณกำลังเศร้า แสดงว่าจิตใจคุณกำลังอ่อนโยน คุณพร้อมจะเข้าใจ และกำลังเห็นใจคนอื่น หากมีโอกาสคุณก็พร้อมจะแบ่งปัน ช่วยเหลือคนอื่นตามที่คุณพอจะมีกำลัง ด้วยสายตาของการมองโลกแบบอ่อนโยนนี่แหละ ฉันเชื่อว่ามันจะทำให้โลกสวยงาม เราจะทำร้ายกันน้อยลง คุณเชื่ออย่างฉันไหมละ

บทสนทนาของเธอและฉันดำเนินต่อไปอีกเล็กน้อย ก่อนที่เราจะปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมัน
และฉันก็นั่งอ่านทบทวนบันทึกเรื่องราวที่เจอะเจอในวันนี้

ฉันตื่นนอนตั้งแต่เช้า เพราะนอนไม่ค่อยหลับ อาบน้ำจัดเก็บของทุกอย่างเสร็จก็เกือบหกโมง รอรถตามที่นัดใว้แต่เมื่อไม่เห็นวี่แวว ฉันก็เดินออกมาหารถให้ไปส่งที่สายใต้ด้วยตัวเอง มาถึงสถานีสายใต้ ปรากฎว่ารถเที่ยวหกโมงครึ่งยังไม่ออก ทุกคนพยายามคะยันคะยอให้ไปคันนี้ ลังเลไปลังเลมา ฉันก็ไปตามที่เขาบอก นั่นแปลว่า การจองเที่ยวเจ็ดโมงจากในเมืองหลวงพระบางเมื่อวาน ไม่ได้มีประโยชณ์อันใดเลย ดูราวกับว่า มาทันคันไหนก็ไปคันนั้น

รถคันนี้ขนมอเตอร์โซน์อีกแล้ว มอเตอร์ไซน์จากเมืองจีน คงหลั่งไหลเข้ามาในประเทศนี้ มากพอๆ กับนักท่องเที่ยวแน่ๆ ทุกอย่างกำลังหลั่งไหลมาเปลี่ยนประเทศนี้ โดยเฉพาะหลวงพระบางที่ฉันเพิ่งจากมา ฉันมีสิทธิจะไม่เห็นด้วย แต่ฉันก็ต้องเคารพสิทธิของคนอื่น สิทธิการเลือกด้วยตัวของเขาเอง - เพียงแต่ให้เขาเลือกด้วยตัวเองพอ อย่าให้ใครมาบังคับให้เลือก

ฉันได้นั่งคู่กับคุณลุงชาวหลวงพระบาง ลุงบอกว่าปกติลุงนั่งเครื่องบิน แต่คราวนี้ลุงเลือกนั่งรถเพราะอยากดูวิวสวยๆ ลุงใส่ทอง และมีโทรศัพท์มือถือด้วย ลุงบอกว่ากำลังจะไปหาลูกสาวที่เวียงจันทร์ แต่ลึกๆ ฉันเชื่อว่า ลุงเป็นตำรวจ ตำรวจนอกเครื่องแบบ ที่นั่งปะปนไปกับรถนักท่องเที่ยว ฉันอยากเชื่อแบบนี้ มันทำให้ฉันอุ่นใจดี

ตลอดเส้นทางมันสวยจริงๆ แรกๆ ฉันรู้สึกดีใจที่เลือกเที่ยวเช้าสุด เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยทะเลหมอก ทะเลหมอกที่แถวบ้านฉันหาได้ไม่ง่าย แต่กว่าจะถึงวังเวียงในตอนเที่ยง ทะเลหมอกเธอก็ไม่กลัวแดด ฉันจึงทักทายกับเธอซะจนสนิทสนม นี่แหละความสวยงามแบบไม่ต้องพยายาม

ฉันคงมีวิญญาณคนเจ้าชู้แน่นอน เพราะฉันตกหลุมรักวังเวียงตั้งแต่แรกพบอีกแล้วเมืองเล็กๆ ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสลับซับซ้อน แม่น้ำเล็กๆ ใสๆเย็นๆ ท้องทุ่งสีเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวโรแมนติคมากๆ ฉันจะมาฮันนี่มูนที่นี้ ฉันต้องจดใว้ก่อน เราต้องรู้จักเตรียมความพร้อม... เธอจ๋า อยู่ที่ไหน มาเสียที ฉันเตรียมหลายๆ อย่างรอใว้แล้วนะ ... เพ้อเจ้ออีกแล้ว

กว่าจะเลือกที่พักได้ก็เล่นเอาฉันเหนื่อย เพราะฉันเริ่มเลือกมาก นอกจากทำเลที่ตั้งของเกสส์เฮาร์แล้ว ปัจจัยของราคาก็มีผล แปลกแต่จริงคือ บรรดาที่พักที่เคยมีคนแนะนำเอาใว้มันเป็นที่แพงๆ ทั้งนั้น ขนาดบรรดาฝรั่งนักท่องเที่ยวค่าเงินแพงก็ยังไม่เลือกพัก นักท่องเที่ยวตัวเล็กกระเป๋าเบา อย่างเราก็ไม่ควร ที่พักของฉันออกห่างออกมาจากตลาดเล็กน้อย ราคาถูกใจ บรรยากาศ น่าหลงรัก ฉันพอใจเป็นอย่างยิ่ง

ตอนที่ฉันกำลังรอเพื่อเช็คอินเข้าที่พัก ผู้จัดการเกสส์เฮาร์กำลังส่งแขกกลับเวียงจันทน์ ฉันติดใจกับคำทักทายของเขาทั้งสองเล็กน้อย แม้อาจจะเป็นแค่คำพูดล้อเล่นกันก็ตาม

"เจอกันใหม่" นักท่องเที่ยวตาสีฟ้า ผมสีทองกล่าวลา ตามธรรมเนียมธรรมดา ธรรมดา
"ฉันก็หวังใว้ ฉันไม่มีความสามารถไปเจอคุณที่บ้านคุณได้แน่ๆ แต่คุณคงกลับมาที่บ้านฉันได้อีกหลายๆ ครั้งเลยแหละ ‘ ผู้จัดการเกสส์เฮาร์กล่าวตอบด้วยความจริงใจ

หลังจากอาบน้ำ ฉันรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้ สงสัยเพราะเที่ยวหักโหมติดต่อกันมา 5 วัน วันนี้ฉันจึงเลือกนั่งพัก นั่งรอดูพระอาทิตย์ตกตรงหน้าที่พัก มันสวยงามมากจริงๆ ผู้หญิงกำลังเก็บสาหร่ายในแม่น้ำ กว่าชั่วโมงแล้วที่ฉันเห็นเธอทำงานนี้ ช้าๆ เงียบๆ เด็กๆมาเล่นกระโดดน้ำ บางคนนำเสื้อผ้ามาซัก อีกคนก็กำลังตักน้ำรดผักที่ปลูกใว้ใกล้ๆแม่น้ำ ดูเหมือนสายน้ำซอง มันเป็นสายน้ำแห่งชีวิตของคนที่นี้ สายน้ำที่สวยงาม ชีวิตที่สอดคล้องกับสายน้ำ ฉันกำลังสงสัยว่า ปราการธรรมชาติจะปกป้องสิ่งเหล่านี้ใว้ให้เขาได้นานแค่ไหน ข่าวว่าสัมปทานการทำไม้ที่คนจากประเทศฉันกำลังพยายามเร่งการผลิตกำลังรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ ถ้าถึงวันที่แม่น้ำซองเหือดแห้งไปจริงๆ ชีวิตที่นี้จะเปลี่ยนไปแบบไหน ฉันไม่ได้คิดถึงแค่ความสวยงามเท่านั้น ฉันเชื่อว่าเขาจะปรับตัวเข้ากับอะไรใหม่ๆ ได้อย่างแน่นอน แต่มันจะต้องให้ความอดทนอีกสักเท่าไหร่ ทำไมคนที่แข็งแรงกว่าพยายามตักตวงจากผู้ที่อ่อนแอกว่าเสมอ เมื่อไหร่เราจะอยู่ร่วมโลกใบนี้ด้วยการแบ่งปันและเจือจาน

นี่ฉันกำลังเริ่มเศร้ากับอะไรกันนี่

ฉันเขียนบันทึกได้แค่นี้ ก่อนที่จะได้ยินคำถาม "เป็นอะไรหรือเปล่า"
ก่อนที่ฉันจะตอบว่า "สวยมาก แต่ฉันรู้สึกเศร้า"


10 ธค 46




- 2 -








Port-au-Prince resort
มีหาดทรายที่ยังคงความงามแบบดั่งเดิม
ที่พักสวยงาม อาหารรสดี ดนตรีเต็มไปด้วยสีสัน
การบริการที่ยอดเยี่ยมจากพนักงาน
ที่นี้มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะถูกเรียกว่า
ดินแดนสวรรค์ของนักท่องเที่ยว
ที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถทำตัวได้ราวกับเทวดาหรือนางฟ้า
ที่ที่นักท่องเที่ยวมีอำนาจ สามารถทำตัวตามความปรารถนา
ปราศจากกฏเกณเหมือนสังคมเดิมๆของตัวเอง








Brenda (Karen Young)
Sue (Louise Portal)
และ Ellen (Charlotte Rampling)
สามสาววัยทองเดินทางมาพักผ่อนณ สรวงสวรรค์นี้
สรวงสวรรค์ที่เธอสามารถหาซื้อ sex ได้จากหนุ่มๆท้องถิ่น
และทั้งสามก็ตกหลุมรักหนุ่มคนเดียวกัน
Legba (Monothy Cesar) หนุ่มน้อยชาวไฮติ

นี่ภาพความสวยงามในสายตานักท่องเที่ยว
ซึ่งตรงกับข้ามกับภาพความจริงในด้านของชาวเมือง
ส่วนภาพอีกด้านหนึ่งถูกแสดงให้เห็นประเทศไฮติ
ประเทศที่ตั้งของดินแดนสวรรค์ดังกล่าว
ประเทศที่ยังเต็มไปด้วยปัญหาความยากจน
ซึ่งยังผลไปสู่ปัญหาที่ตามมาอีกมากมาย
อาชญากรรม การใช้อำนาจเถื่อน การทำงานผิดกฏหมาย
หรือแม้กระทั่งการต้องทำงานขายร่างกายของหนุ่มๆ

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับหญิงชาวฝรั่งเศส
บทภาพยนตร์ถูกดัดแปลงจากเรื่องสั้นของนักเขียนเชื้อสายไฮติ


ขณะดูภาพยนตร์เรื่องนี้
ฉันกำลังนึกถึงเรื่องที่เคยเขียนบันทึกใว้
เมื่อหลายปีที่ก่อน

2 Comments:

At 11:55 PM, Anonymous Anonymous said...

ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืนหรอกค่ะ

 
At 10:29 AM, Anonymous Anonymous said...

นึกถึงวังเวียงตลอดเวลา ... เป็นที่แรกที่อยากไป สบายใจ ไม่ไกลมาก และไม่แพง อยู่นานเป็นอาทิตย์ก็ไม่เบื่อ ถึงแม้จะหลงรักญี่ปุ่นมากไม่แพ้กัน แต่ก็มีข้อจำกัดอะไรมากมาย

ป.ล.อยากเดินทางตลอดเวลา :)

 

Post a Comment

<< Home