Monday, December 18, 2006

What do you think about happiness ?

หากนับตามจำนวนแผนการท่องเที่ยวที่ฉันวางใว้
ฉันคงท่องเที่ยวไปทั่วทุกมุมของโลกแล้ว

ถึงสิบแผนการณ์
ที่จะเกิดการเดินทางจริงเพียงแค่หนึ่ง
ฉันก็ยังไม่เลิกวางแผน

แม้เพื่อนบางคนจะบอกว่า
ความสุขของฉันคือการได้วางแผนเที่ยว
แล้วก็ไม่ได้เที่ยว

ฉันก็ยังวางแผนมันต่อไป


สำหรับปลายปีนี้
แผนการของฉันมีทุกรูปแบบ
แต่แผนที่ดูใกล้ความจริงก็พอจะมี

นิวซีแลนด์

เส้นทางนี้ถูกวางแผนการอย่างละเอียด
ทุกอย่างพร้อม ทั้งวันลา และสมาชิก
แต่สุดท้ายก็แห้ว เพราะหนึ่งในสมาชิกถอนตัว
เหลือเพียงฉันกับรุ่นพี่อีกคน ซึ่งเป็นผู้หญิง
เราทั้งสองลงความเห็นว่า มันไม่เหมาะที่จะไปสองคน
ด้วยเหตุผลนานา ประการ
แผนการณ์นี้ จึงต้องล้มเลิกไป


เมื่อแห้วจากนิวซีแลนด์
ฉันก็หันไปสบเพื่อนอีกฝ่าย
ชวนกันไป Everate Base Camp
แต่พอเอาเข้าจริง ทุกคนบอกว่าหนาวเกินไป
ขอย้ายไปเดินเดือนอื่น
เอาแบบที่มนุษย์ที่ราบแถวเส้นศูนย์สูตรพอจะทนไหว
ฉันก็เห็นด้วย
แผนการณ์นี้ จึงต้องล้มเลิกไป


แผนการณ์ที่สาม คือ แชงกรีล่าของจีน
ประมาณเมืองต่าลี่ ลี่เจียง
แผนนี้เพื่อนเป็นคนชวน
พวกมันต้องการไปฮันนี่มูนกันนั่นแหละ
ฝ่ายชายนั้นคือเพื่อนสนิท
ฝ่ายหญิงคือคนที่เคยสนิทมากๆคนหนึ่ง
ก็เกรงว่าจะสร้างปัญหา เป็นก้อนไม้ตลอดทริปก็คงไม่ไหว
ก็เลยมีอันต้องของบายไปก่อน
ใว้คู่นี้ชวนอีกที ก็ว่าวันใหม่

แผนการณ์ที่สี่ คือ หลวงพระบาง
ออกแนวปลอบใจคนไม่ได้ไปนิวซีแลนด์
ดูเหมือนมันจะแทนกันได้ยังไงไม่รู้
นิวซีแลนด์ ถูกแทนที่ด้วย หลวงพระบาง
ฉันยังทำใจไม่ได้ ก็เลยขอบาย

แล้วแผนการณ์อื่นๆ ก็ทยอยกันเข้ามา
ไม่ว่า สิกขิม แคชเมียร์ เกาหลี อียิปต์
เยอะแยะไปหมด
คาดว่าสุดท้ายน่าจะเป็น กลับบ้าน

ซึ่งเมื่อพูดประโยคนี้ออกไป
ดูเหมือนทุกคนรอบตัว ดีใจกันมากๆ
เหมือนกับว่า สมน้ำหน้า ยังไงยังงั้น


เมื่อไม่ได้ท่องเที่ยวจริง
ก็ทำการแก้ขัดด้วยการอ่านหนังสือไปก่อน
เริ่มจาก







ใต้หมวกหิมะ


บันทึกการเดินทางไปนั่งวาดรูปที่แคชเมียร์
ของพี่เพลงแม่น้ำร้อยสาย

แค่ฟังประโยคข้างบนก็สุดยอดของความเท่ห์เลย
พี่เพลงดาบชอบเขียนเหมือนกับว่า
พี่เป็นคนธรรมดามากๆ
ทั้งที่สิ่งที่พี่ทำนะ
มันติสท์ สุดๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ยิ้มได้
ชอบงานเขียนเรื่อยๆของพี่เพลงดาบเป็นทุนอยู่แล้ว

ตอนอ่านก็นึกว่า
พี่เพลงดาบชอบเดินทางคนเดียว
แต่ฉันไม่ค่อยชอบ
ด้วยเหตุผลง่ายๆคือ
ปกติก็อยู่คนเดียวมากพอแล้ว
เวลาเที่ยวขอมีเพื่อนหน่อยเถอะ



เล่มต่อมา เสียวสิกขิม
(หารูปปลากรอบไม่ได้ สงสัยไม่มีคนอ่านแหงมๆ)


บันทึกการเดินทางท่องเที่ยวในสิกขิม
ของเสียวจันทร์ แรมไพร

ปกติฟังเรื่องเล่าสิกขิมมาบ่อยแล้ว
และส่วนมากเพื่อนๆ เล่าได้สนุกกว่านี้
ภาพสวยกว่านี้
การเดินทางน่าสนใจกว่านี้

แหะ แหะ แหะ
คือว่าเพื่อนฉัน
มืออาชีพมากกว่านี้อะ

หรือว่าเป็นเพราะ ทริปนี้เขาไปกับทัวร์
เป็นทริป ศิลปิน โดย รอน แรมทาง แห่ง TGM เป็นคนจัดการหมด
ก็เลยรู้สึกจืดๆไปหมด








สองเงาในเกาหลี


เหตุผลของการซื้อมาไม่มีอะไรมาก
อยากรู้ว่าฝีมือการเขียนหนังสือ
ของ บอกอ aday คนนี้เป็นไงบ้าง

เพราะคุณโหน่ง เขียนหนังสือดีมาก
วชิรา ก็เขียนหนังสือท่องเที่ยวสนุก
แล้ว ทรงกลด ละ เขียนเป็นไง
วัดกันในเรื่องเที่ยวเลยนะ

ยังไม่ทันได้อ่าน
รุ่นพี่ก็รีวิวหนังสือเรื่องนี้ในวงสนทนา
ฟังจากที่รุ่นพี่เล่า ฉันกับเพื่อนสงสัยกันว่า
หนังสือเล่มนี้ เล่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ในวันนี้ความเชื่อของฉันเอนเอียงไปทางเรื่องแต่ง

เรื่องเล่าของหนึ่งหนุ่มนักเดินทางเดี่ยว
ที่ไปพบเจอกับสาวไทยนักเดินทางเดี่ยว

หนุ่มเป็นนักเขียน ชอบบันทึก
สาวเป็นนักวาด และเล่นละครเวที
ฟังดูมันลงตัวเหมาะเจาะเกินไปไม๊

อ่านเรื่องนี้แล้วฉันนึกถึง
Before Sunrise
ผนวก กับ บทสนทนาต่างๆใน
Before Sunset

แต่ตัวหนังสือมันไม่ค่อยชัดเจน
เหมือนจะร่าเริง เหมือนจะช่างคิด
เหมือนจะปากร้าย และเหมือนจะโรแมนติค
มันก่ำกึงไปหมด โดยรวมของหนังสือเล่มนี้ก็สนุกดี

อ๋อ หากบอกว่า คนเขียนคือคนเดียวกับ วชิรา
ก็พอจะมีเค้านะเนี่ย หรือว่า
ใครจะเป็นบอกอ Aday
ต้องถอดแบบมาจากพี่โหน่ง 555







ผู้ชายร้อยประเทศ


เรื่องเล่าเบื้องหลังการถ่ายรายการของ
สรรเสริญ ปัญญาธิวงศ์

สาเหตุการซื้อง่ายๆคือ
อยากได้ วีซีดี เส้นทางสายไหม
เพราะอยากไปมาก

สรรเสริญ เขียนหนังสือ
อ่านสนุกมากกว่าตอนฟังเขาพูดในรายการ

มันทำให้ฉันยิ่งมั่นใจว่า
แม้จะเล่าเรื่องเดียวกัน
เสน่ห์ของหนังสือ
และตัวอักษรมันต่างจากสื่ออย่างอื่นจริงๆ





เปิดประตูสู่ แชงกรีล่า


เรื่องเล่าสไตล์ กาญจนา หงษ์ทอง
ครั้งนี้เป็นการเดินทางไป แชงกรีล่า

ก็เหมือนเดิม
สนุกแบบเดิม

เดินทางตามด้วยอีกต่างหาก



หนังสือทั้งหมดใช้เวลาอ่านนิดเดียว
เวลาหลักๆที่เสียไปคือเล่มนี้

Bookends ของ Jane Green
เพราะอ่านฉบับภาษาฝรั่ง
แบบว่า อยากฝึกภาษาอะ
ก็เลยกว่าจะแกะจนหมดเล่ม

แถมยังไม่กล้าวิจารณ์อะไรมาก
เพราะกลัวอ่านหนังสือไม่แตก
แปลมาไม่ครบ

เอาเป็นว่าหากมีเวลาอ่านภาษาไทย
แล้วจะมาชำแหละให้คนที่ชอบเรื่องนี้ฟัง
เพราะฉันมันพวก ขวางโลก หุหุหุ


แล้วอีกเล่มที่กำลังอ่านคือ



Amrita ของ Banana yoshimoto
ฉบับภาษาฝรั่งอีกเช่นกัน
ซึ่งก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะอ่านจบ
เพราะอ่านเฉพาะบนรถไฟฟ้า
เวลากางออกมาอ่านดู ไฮโซ มักๆ

ซึ่งจากที่แกะมาได้ 10 กว่าหน้า ก็สนุกดี

3 Comments:

At 2:12 PM, Anonymous Anonymous said...

Banana's amm... interesting.

never caught up Banana's for so long.

will try...



miss you ka.

 
At 6:34 PM, Anonymous Anonymous said...

ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่เข้ามาอ่านข้อความแล้วก็กลับมาคิดถึงตัวเราเองที่ชอบวางแผน ได้ไปบ้างไม่ได้บ้าง มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าอยากจะคุยกับผมมาคุยกันได้ครับเรื่องการเดินทางที่ jamesawaddee@hotmail.com

 
At 12:45 AM, Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความ

 

Post a Comment

<< Home