Saturday, December 16, 2006

วาระ ของชีวิต ... 2

10 ธันวาคม

มาเชียงใหม่ เดือนธันวาม
ต้องเจออากาศหนาว

ใครๆ ก็คงคาดหวังอย่างนี้

เมื่อดอยสุเทพยังไม่มีอากาศหนาวให้เจอ
เราก็ต้องดั้นด้นไปสู่ที่ที่เราแน่ใจว่า
จะต้องเจออากาศหนาว

เรานัดรถตั้งแต่ 8 โมงเช้า
เป้าหมายคือ ดอยอินทนนท์
แต่ช่วงเช้าเราต้องตระเวนหาบัตร
สำหรับงานพืชสวนโลกก่อน
กว่าเราจะสามารถออกจากเมืองจริงๆก็ 11 โมงเช้า
ประมาณบ่ายโมง
รถตู้ของเราก็ต้องจอดบริเวณพระธาตุ
เพราะไม่สามารถไปต่อไปแล้ว
รถเยอะมากๆ ตามที่คาดการณ์ใว้

ยังไงมาอินทนนท์ก็ต้องถึงยอดมันให้จงได้

เราคิดและเชื่อกันแบบนี้
เราจึงต้องเหมารถสองแถวขึ้นไป

เมื่อถึงยอดอินทนนท์ดังที่พยายาม
แต่อากาศหนาวก็ไม่มีอยู่ที่นั่น
มันเกินความพยายามของเราแล้วละ
คงได้แต่ทำใจ

ครั้งแรก(เมื่อหลายปีก่อน)ที่เดินในป่าอ่างกา
ผมตื่นตาตื่นใจมาก
แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
เพราะประสบการณ์มันต่างไปแล้ว

หากเปรียบเส้นทางป่าโบราณบนที่สูงบนยอดอินทนนท์
เหมือนภาพยนตร์โฆษณาขนาดสั้นมากที่เราได้ผ่านตา
และมหากาพย์ของภาพยนตร์เรื่องนี้
เส้นทางจาก Poon Hill จนถึง Naya Pul
บนเทือกเขาหิมาลัยเดียวกัน ที่ตั้งอยู่ในประเทศเนปาล

พวกเราลงจากยอดอินทนนท์ด้วยการโบกรถ
และแวะพระธาตุตามาตรฐานการท่องเที่ยว
ก่อนที่เราจะต้องรีบบึ่งรถกลับมาสู่งานพื้ชสวนโลก

พวกเราเข้าสู่งานพืชสวนโลกประมาณเกือบหกโมง
ฟ้ากำลังเริ่มมืด แสงไฟจากสวนต่างๆเพิ่งเริมสว่าง

งานพืชสวนโลก สวยกว่าที่ผมคิดใว้

หลังจากนั้นพวกเราก็ใช้เวลาในงานพื้ชสวนโลกจนกระทั่งสามทุ่ม
แล้วจึงไปทานอาหารต่อที่ร้าน Good View

เป็นอันจบสิ้นไปอีกหนึ่งวันที่เชียงใหม่

หนึ่งวันที่ยังไม่เจออากาศหนาว
ทั้งๆที่อุตส่าห์ดั้นด้นไปจนถึงจุดสูงสุดในสยาม


วันที่ 11 ธันวาคม

เพื่อนส่วนใหญ่แยกย้ายกันกลับไปแล้ว
นึก ๆ ก็ใจหาย
ไปไม่รู้ว่าพวกเราจะได้มีโอกาสเจอกันอีกเมื่อไหร่
เพราะวาระแห่งชีวิตแบบนี้ มันเริ่มจะหมดลงไปเรื่อยๆ

สมาชิก สามคนที่เหลือ คือคนที่วาระแห่งการแต่งงานยังมาไม่ถึง
หนึ่งนั้น เป็นคนเชียงใหม่ แต่ทำงานอยู่ในกรุงเทพ
มีแนวโน้มมาหลายปี แต่ยังไม่มีความแน่นอนอันใด

อีกหนึ่ง กำลังเรียนปริญญาเอก แนวโน้ม น้อยยิ่งกว่าน้อย
เพราะมนุษย์อย่างเพื่อนคนนี้ มีความสุขและบรรลุธรรม
เกินว่าจะหาเรื่องใส่ตัว (เหตุผลของมัน - ใครจะเหมาะเข้ากับมันได้
เก่ง ฉลาด นิสัยดี เชื่อมันในตัวเองมากๆ และ เต็มไปด้วยเหตุและผล)

ส่วนอีกหนึ่ง คือ ผมเอง


วันนี้เราเริ่มต้นวันสายๆ
ค่อยๆตื่น ค่อยๆจัดการเรื่องต่างๆ
รอจนเพื่อนของเพื่อนมารับ
เพื่อจะไปกินข้าวซอย

เราตั้งใจกันว่าจะลองมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่
แบบที่นักท่องเที่ยวควรจะท่องเที่ยวในเชียงใหม่จริงๆ

หลังจากกินข้าวซอยอิ่มแล้ว
เราก็ถอดใจ เพราะนึกไม่ออก

ทางเลือกสุดท้ายคือ ผมกับว่าที่ดอกเตอร์
ไปเดินงานพืชสวน ส่วนอีกคนก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่

และผมก็ได้เดินงานพืชสวนอีกรอบ
โดยต่างคนต่างเดิน
ผมรู้สึกสนุกกับการท่องเที่ยวคนเดียวเป็นอย่างมาก
มันรู้สึกว่า อยากดูอะไรนานก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจใคร
อยากข้ามตรงไหนก็ได้ ชอบมาก

ตั้งแต่บ่ายโมง จนถึง 6 โมงเย็น
เป็นเวลาที่มากพอที่จะทำให้ผมเก็บรายละเอียด
ส่วนที่เหลือเกือบทั้งหมดของงานพืชสวนโลก

ออกจากงาน เราก็แวะไปเก็บกระเป๋าที่บ้านเพื่อน
แล้วพี่ชายของเพื่อนก็พาไปทานข้าวที่ร้านอาหารบ้านๆ ที่ชื่อ ยอดแซบ
ซึ่งนับเป็นมืออาหารที่อร่อยมาก

ผมจะจำชื่อใว้ ว่าหากเจอร้านยอดแซบ ที่ไหน ก็ให้แวะทาน
เพราะพี่ชายเพื่อนบอกว่า เป็นสาขาเดียวกันทั้งหมด
รสชาดจะใกล้เคียงกัน

แล้วด้วยความเพลิดเพลินกับอาหาร
ก็ทำให้เราต้องวิ่งกระหืดกระหอบไปขึ้นรถ

ได้ที่นั่ง เราก็หลับทันที




12 ธันวาคม

ประมาณ 5.30 น
รถทัวร์ก็นำเราสู่หมอชิต
เพื่อนคนหนึ่งลงก่อนแล้ว
โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลย

กว่าจะเรียก Taxi ได้
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม Taxi ชอบปฎิเสธ
ทั้งๆที่เขตที่ผมพักคือใจกลางเมือง มาก มาก

ถึงที่พัก อาบน้ำ อาบท่า
ตั้งใจว่าจะนอนพักสักหน่อย
แล้วค่อยตื่นมาทำงานที่รับปากว่าจะส่งวันนี้
(โดยการหยุดงาน ซะงั้น)

แต่ปรากฏว่า ตื่นอีกที 5 โมงเย็น
กว่าจะได้นอน ก็ปาเข้าไปตีสาม

เฮ้อ ชีวิต


13 - 16 ธันวาคม

ตื่นสายๆ
ถึงที่ทำงานสายมากๆ
นั่งทำงาน
ยุ่งมากๆ

กว่าจะเสร็จงาน
ก็เกือบ 4 ทุ่ม
นั่ง Taxi ถึงที่พัก
หมดแรง
ไม่มีเวลาทำงาน Freelance ที่รับปากต้องส่ง


เฮ้อ ชีวิต


สงสัยต้องเคร่งครัดกับ
กฏข้อที่หนึ่งของชีวิตให้จงได้ซะที

3 Comments:

At 11:52 PM, Blogger คิวว์ said...

สวัสดีค่ะ
เพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่เหมือนกัน และเช่นกันหาความหนาวไม่เจอ

 
At 7:22 PM, Blogger คิวว์ said...

จะมีใครบ้าเหมือนข้าพเจ้ามั้ยเนี่ย?
นั่งอ่านบล็อกนี้ไล่ entry ย้อนไปเรื่อยๆ
ตั้งแต่เมื่อวาน เรื่อยไปจนกลางคืน
และอ่านจบลงตอน6โมงเช้าของวันนี้เอง
แบบนี้เรียกเลี้ยงลูกผ่านรวดเดียวได้ประตูชัยเลยนะเนี่ย
160 กว่า entry คิดว่านะ...

เห็นพัฒนาการของตัวตนเสมือนของคุณเฟิง (แบบถอยหลัง) อย่างชัดเจน...จะเข้าข่ายพวกโรคจิตหรือป่าวเนี่ยเรา

 
At 12:28 AM, Anonymous Anonymous said...

ขอบคุณมาก ๆ นะครับ

 

Post a Comment

<< Home