Tuesday, May 09, 2006

ร ว ม มิ ต ร




สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน
ความตั้งใจแรกเริ่มคือ ไปภูกระดึงฉบับคนชรา
ไปร่วมโครงการค้านการสร้างกระเช้า
เพื่อแสดงให้เห็นว่าคนชราที่พยายามสักหน่อย
ก็ไปเที่ยวภูกระดึงได้โดยไม่ต้องพึงกระเช้า

แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ได้ เพราะมีคนชราเยอะแล้ว
พร้อมกับรู้สึกว่าควรจะอยู่กทม
เคลียร์งานหลวงงานราษฎ์ที่คั่งค้าง
ขนาดรุ่นพี่โทรมาชวนไปนอนเล่นที่หาดวนกร
ยังบอกเหตุผลแบบนี้


นั่นคือความตั้งใจ เรื่องจริงๆที่เกิดขึ้น เป็นดังนี้



วันศุกร์


ตอนเช้า นอนเล่น กลิ้งไป กลิ้งมา หมดไปครึ่งวัน
ตอนบ่ายแวะไปร้านเช่าหนังสือ
ความตั้งใจคืออยากอ่าน เดธโนต และ ทเวนตี้เซนจูรีบอย เล่มใหม่
แต่ปรากฏว่าได้นิตยสารมาแทน
อันประกอบด้วย อสท 2 เล่ม อเดย์ และ แฮมเบอเกอร์ อย่างละเล่ม


อสท นิตยสารท่องเที่ยวเก่าแก่ของไทย ที่ไม่เคยพัฒนาไปไหนเลย
หากความดีในวันเก่ามีแค่ไหน ความดีอันนั้นก็คงมีอยู่แค่นั้น
มันอาจจะเหมือนการท่องเที่ยวของประเทศนี้
วันก่อน วันเก่ามีดีอะไร ถึงวันนี้ก็มีแค่นั้น
รอให้คนอื่นๆ พัฒนาขึ้นมาแข่ง และแซงหน้าไปในที่สุด

ข้าพเจ้าก็เคยสงสัยว่า คนแบบไหนที่ยังอ่าน อสท
เพราะหากอ่านครบหนึ่งปี ก็จะรู้ว่ามันวนกลับมาเหมือนเดิม
แต่รุ่นพี่ที่อยู่ ททท บอกว่า อสท เลี้ยงตัวเองได้สบาย
หรือว่า เพราะยอดโฆษณามันเยอะ

มันก็คงเหมือนกับที่ข้าพเจ้าสงสัยว่า
นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยทำไม
ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง
มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม
กำลังพัฒนาศักยภาพขึ้นมาแข่งขัน
และบางประเทศกำลังจะก้าวข้ามเราไป
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาเหล่านั้นยังเลือกที่จะมาเที่ยวประเทศไทย

ข้าพเจ้าเคยไปพม่า และรู้สึกว่าอะไรที่เขาจะชนะเรา
ข้าพเจ้าเคยไปกัมพูชา และรู้สึกได้ว่าอะไรที่เราสู้เขาไม่ได้
ข้าพเจ้าเคยไปลาว และเชื่อว่าลาวมีบางอย่างที่เราเสียไปแล้ว
ข้าพเจ้าเคยไปเวียดนาม และมั่นใจว่าเขากำลังจะก้าวทันเรา

และข้าพเจ้าก็เชื่อว่า ททท และ อสท ก็รู้สึกได้
แต่ไม่รู้สิ แล้วเขาเหล่านั้น ทำอะไรกันอยู่
อาจจะทำก็ได้นะ แต่ข้าพเจ้าไม่รู้แค่นั้นเอง

แต่เท่าที่เห็น อสท ซึ่งถือเป็นหัวหอกของการท่องเที่ยวอย่างหนึ่ง
ยังย่ำอยู่กับที่ ไม่มีอะไรน่าสนใจใหม่ๆ



Hemberger ฉบับปรับโฉมใหม่ ข้าพเจ้าเพิ่งได้มีโอกาสอ่าน
ไม่ค่อยรู้สึกว่าอะไรเปลี่ยนไปมากนัก นอกจากรูปเล่ม
ดูเหมือนว่าทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม
ที่เพิ่มเข้ามายังไม่ได้มีอะไรสะดุดตา

ส่วนใหญ่ข้าพเจ้ามักจะอ่านคอลัมน์วิจารณ์
หรือไม่ก็งานแนะนำศิลปินใหม่ๆ
ที่เหลือนอกจากนั้นก็นึกไม่ออก

คอลัมน์ที่จำได้คือ คอลัมน์เรื่องรัก
ฉบับก่อนที่เปิดอ่านคือ แนะนำวีเจลูกเกด กับคนรัก
(ข้าพเจ้าชอบวีเจลูกเกด น่ารักดี และดูเหมือนว่า
เป็นวีเจคนเดียวในชาแนลวีขณะนี้ ที่ดู ชัดเจน ที่สุด
ที่เหลือก็รู้สึกว่า ดาษดาษ ทั้งนั้น)

ฉบับนี้แนะนำคู่รัก วรรธนา กับ นิมิตร
คู่นี้น่ารักดี ตอนที่เคยสัมภาษณ์คู่นี้
ยังรู้สึกได้ว่า เป็นคู่ที่น่ารัก และ น่าอิจฉามากๆ

เล่มสุดท้ายคือ อเดย์
นิตยสารที่ไม่ได้อ่านมานานมาก
อ่านเฉพาะปีแรกเท่านั้น
หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้อ่านเลย

วันนี้หยิบมาอ่านอีกที
ก็ยังถือว่าเป็นนิตยสารที่น่าสนใจ
(โฆษณาก็เยอะมากๆ 555)
ใว้เมื่อไหร่ว่างๆ จะหยิบมาอ่านอย่างจริงจังอีกครั้ง
ครั้งนี้ดูเหมือนจะมีแต่การเปิดผ่านเยอะกว่า

มันเหมือน น่าสนใจ แต่ยังไม่สนใจ
งง ปะ





วันเสาร์

ช่วงเช้า ไปงานแต่งงานรุ่นน้องที่ชมรม
รุ่นน้องคนนี้คบกัยแฟนมาเจ็ดปี
แต่คนที่แต่งงานด้วยกลับเป็นอีกคนหนึ่ง
ที่ทางบ้านจัดการให้ และรู้จักกันมาแค่เจ็ดเดือน
ชีวิต มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายเสมอๆ

ช่วงบ่าย ไปเดินเล่นที่ร้านคิโนะคุนิยะ
นั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
แล้วก็ซื้อกลับมาหนึ่งเล่ม เป็นเรื่องของการวัดแสง


วันอาทิตย์

จัดการส่งผ้าซัก
แล้วเที่ยวก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อน
ไปร้านเค้กชื่อ เค้กวอล์ก
รสชาดก็พอรับได้ ราคาก็ไม่แพงมากนัก

บ่ายๆ ก็กลับมานอน กลิ้งไปกลิ้งมา
เตรียมตัวทำงานในวันจันทร์

ท้ายที่สุด ก็ไม่ได้สะสางงานสักกะนิด
ซึ่งก็คาดการณ์ใว้แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้
ตามนิสัยสามัญของคนขี้เกียจ

2 Comments:

At 11:31 PM, Anonymous Anonymous said...

เพื่อนเราไปมาค่ะ
ไอ้โครงการณ์คัดค้านกระเช้าที่ภูกระดึง

ส่วนเรา

ไปเที่ยวเกาะเต่ามา

:)

 
At 4:17 PM, Anonymous Anonymous said...

อะไรฟะ ไอ้ที่อ่านมานะ สู้ไปตะเลดีหว่า กลิ้งบนทรายยังดีกว่ากลิ้งบนที่นอน

 

Post a Comment

<< Home