Monday, January 16, 2006

คืนวันเสาร์ เย็นวันอาทิตย์ เช้าวันจันทร์

คืนวันเสาร์


สองทุ่ม
เริ่มล้มตัวลงนอน
ไม่มีเหตุผลอะไรมาก
แค่ขี้เกียจทำงาน

ประมาณสามทุ่มพี่สาวโทรมา
บอกว่าจองรถแล้ว ราคา 76 บาท
อยากวางเงินดาวน์สัก 32 บาท
แต่ตอนนี้มีเงินอยู่แค่ 26 บาท
บอกพี่สาวไปว่าให้วางดาวน์ 42 บาท
เดี่ยวจะโอนไปให้ 20 บาท
ส่วนเงินของพี่สาวที่เหลือก็ให้เก็บใว้
แก่แล้วต้องมีเงินเก็บบ้าง
ประโยคนี้คิดในใจ ไม่ได้พูดออกไป

วางหู นอนไม่หลับ
เปิดไฟ เปิดสมุดบัญชี
ปรากฏว่าไม่ได้อัพเดทสมุดมาหลายเดือน
ไม่แน่ใจว่าเงินมีอยู่กี่บาท

เปิดเพลงฟัง ปิดไฟอีกที
แล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

ข้าพเจ้าเป็นคนเห็นแก่ตัว
ข้าพเจ้าเชื่อแบบนั้น

ข้าพเจ้าเป็นคนใจดี
ข้าพเจ้ารู้สึกอย่างนั้น

สองอย่างนี้มันไม่น่าจะเข้ากัน
แต่มันประกอบขึ้นเป็นตัวข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับการซื้อรถ
เงิน 76 บาทจ่ายไปวันนี้ จะทยอยหมดค่าลงไปทุกวัน
ค่าเดินทางที่พี่สาวต้องจ่ายเพื่อไปทำงาน
อาจจะพอๆกับค่าน้ำมันที่พี่สาวต้องจ่าย หากใช้รถ

ข้าพเจ้ายังพูดต่อไปอีกว่า
เอา 76 บาทมาใช้จ่าย
โดยหารเป็นเงินเดือนข้าราชการแบบพี่สาว
ก็จะเท่ากับอายุราชการที่เหลือ
เพราะฉะนั้นเมื่อบวกลบผลสุดท้ายคือศูนย์
กิจการนี้ไม่น่าลงทุน

พี่สาวยังบอกอีกว่าจำเป็นต้องมีรถ
เพราะว่าแม่ต้องไปโรงพยาบาล ทุกเดือน
ข้าพเจ้าแย้งว่า แล้วรถสามคันที่จอดอยู่ที่บ้านนั่นละ
หนึ่งเก๋งของพี่สะใภ้
สี่ประตูหนึ่งคันของพี่ชาย
ไอ้เทารถโบราณประจำ (วันนั้นยังอยู่ วันนี้ถูกขายไปแล้ว)

ทุกความคิดที่ข้าพเจ้าแย้งไป
ไม่มีใครจะคล้อยตาม
เพราะข้าพเจ้าในสายตาของพี่ๆคือ
ไอ้มนุษย์ดึกดำบรรพ์ผู้ขวางโลก

แต่ถึงจะไม่เห็นด้วย ยังไง
ข้าพเจ้าก็ยังยินดีตามใจบรรดาพี่ๆ
ไม่มีเหตุผลอะไรมาก

เพราะข้าพเจ้าเป็นคนเอาแต่ใจ
และข้าพเจ้าเองก็ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก
ข้าพเจ้าจึงไม่ชอบขัดใจใคร
เหตุผลง่ายๆ โง่ๆ งี่เง่า
แต่มันจริงใจที่สุดเท่าที่จะพูดออกมาได้


เย็นวันอาทิตย์



กว่าจะตื่นนอนก็เกือบจะเก้าโมง
ลงไปทานข้าว แล้วก็กลับขึ้นมาอาบน้ำ
ความขี้เกียจทำงานยังไม่ทุเลา
เลยเก็บกระเป๋าไปออกกำลังกาย

เสร็จจากการออกกำลังกายบ่ายสอง
แวะสยามตั้งใจว่าถ้ามีหนังใหม่น่าสนใจก็จะดู
ปรากฏว่าเวลาไม่อำนวย
เลยตรงไปร้านหนังสือคิโนะที่สยามพารากอน
เดินหาหนังสือที่ต้องการ เดินวนสามรอบ
ไม่ปรากฏมุมหนังสือท่องเที่ยว
เลยเปลี่ยนร้าน

ระหว่างทาง เกิดอาการหิว
เลยวนไปดูร้านขนมปังเปิดใหม่จากสิงคโปร์
เบลดทอร์ค ไลท์ชีสเค้ก ราคา 260 บาท มีคนบอกว่าอร่อย
สนใจอยากลองมาก แต่ต้องอดใจใว้ก่อน
เพราะเดี่ยวมีนัดทานอาหารเวียดนาม

เดินไปร้านซีเอ็ดที่สยาม
ตรงไปหาหนังสือที่ต้องการ
ไม่ปรากฏ

ร้านสุดท้ายที่มักเจอหนังสือที่อยากได้เสมอๆ
บุ๊คคลับที่สยามดิส
และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เจอหนังสือที่ตามหา
ก็เลยได้หนังสือเล่มอื่นมาด้วย

พี่เพลงดาบออกหนังสือเล่มใหม่
แนะนำเรื่องท่องเที่ยวอินเดีย เนปาล
ของสำนักพิมพ์วงกลมแค่สนใจแต่ยังไม่ซื้อ

พี่เจี๊ยบ วรรธนา ออกหนังสือเล่มใหม่
เพลงแบบประภาส สำนักพิมพ์เวิร์คพอย
น่าสนใจ แต่ยังไม่ซื้อ

พี่บินหลา ออกหนังสือนิยาย
อยากอ่าน แต่ยังไม่อยากซื้อ

หนังสือที่ได้ติดมือมาคือ
แบกเป้เที่ยวเนปาล
หัวใช้เท้า ของ วชิรา
ห้าแคนโต้ ชุดที่สอง

กลับมาถึงห้องสี่โมง
นัดเพื่อนที่เวิร์ลเทรด 5โมงครึ่ง
ระหว่างรอ
หลับ

ห้าโมงครึ่ง เจอเพื่อน
และไปถึงร้านอาหารเวียดนามแถวพระรามเก้าตามเวลานัด
ไม่ปรากฏสมาชิกคนอื่นๆ
เราเลยสั่งอาหารทานกันไปก่อน
รสชาดอาหารไม่ค่อยน่าประทับใจ

ผ่านอาหารไปหลายจาน
เพื่อนๆก็เริ่มทยอยกันมา
น้องดีคนอ่านข่าวมาเป็นคนแรก
ต่อด้วยน้องปอที่รีบมาและรีบไป เสมอ
ตามมาด้วยคู่สามีภรรยาและลูกชาย และลูกอีกหนึ่งในท้อง
ท้ายที่สุดคู่สามีภรรยาอีกคู่ที่มาช้ามาก
มาพร้อมกับรูปถ่ายในงานแต่งงาน
รูปถ่ายเยอะมาก ดูกันจนเหนื่อย
ดูไปวิจารณ์ไป ตามประสาคนปากปีจอ

งานสังสรรค์เลิกราตอนสองทุ่มครึ่ง
กลับถึงที่พัก อาบน้ำ นอน
ตั้งใจว่าเที่ยงคืนจะตื่นมาทำงาน
เพราะวันจันทร์ต้องส่ง



เช้าวันจันทร์


ตื่นนอนตอนใกล้แปดโมง
อยากลาป่วย
เพราะงานไม่เสร็จ
ไม่ช่ายแค่ไม่เสร็จ
ยังไม่ได้เริ่มลงมือทำเลยต่างหาก

นอนตัดสินใจจนแปดโมง
ก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำ
แล้วก็ไปเผชิญหน้ากับความจริง

ถึงที่ทำงานแปดโมงสี่สิบห้า
แทนที่จะเริ่มทำงาน
กลับนั่งเล่นเนตซะงั้น
ดูรูปบรรดาพี่ๆเพื่อนๆที่ไปเที่ยวตอนปีใหม่
ดูแล้วก็เกิดกิเลส
เลยเพ้อ นั่งวางแผนเที่ยว
ซึ่งก็วางแผนอยู่ทุกวันนั่นแหละ

เดี่ยวตอนเที่ยงต้องไปธนาคาร

ตอนบ่ายค่อยเริ่มทำงานก็แล้วกัน
เนอะ (เนอะกับสำนึกฝ่ายดี)

โอ้ พระเจ้า
เกิดเป็นมนุษย์ขี้เกียจเนี่ย
แก้ไขยังไงดีละท่าน

3 Comments:

At 9:48 PM, Anonymous Anonymous said...

แหะ เป็นเหมือนกันค่ะ
เลยไม่รู้จะช่วยยังไง

:D

 
At 11:19 PM, Anonymous Anonymous said...

วันอาทิตย์เราเดินตามรอยเท้ากันนะคะคุณพี่

ไปสยามพารากอน ตามหาร้านคิโนะคุนิยะ เพราะต้องซื้อไปใช้ในการศึกษา

แต่ต้องยอมแพ้สถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย

มันอลังการณ์งานสร้างซะจนหาอะไรไม่เจอซักอย่าง

เพราะอิฉันมันอีบ้านนอก

เลยต้องยอมลงทุนนั่งรถไฟฟ้าไปเอ็มโพเรียม แล้วก็ได้เจอสิ่งที่อยากได้

- -"

เสียดายไม่ได้เจอคุณพี่นะคะ

 
At 12:17 AM, Anonymous Anonymous said...

^__^"

 

Post a Comment

<< Home