Thursday, December 22, 2005

ราคาที่ต้องจ่าย



"นี่ยังดีนะที่ไม่ลาออกไปเมื่อปีที่แล้ว ไม่งั้นตอนนี้"

พี่ชายฉันพูดขึ้น ในวันที่พวกเรากำลังปรึกษากัน
เรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นกับการรักษาแม่
เฉพาะค่ายาอย่างเดียวก็เดือนละประมาณสองหมื่นห้า
ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองเดือน แต่มันหมายถึงตลอดไปนับจากนี้

"แค่นี้นะจ่ายไหว แต่มัน" ฉันพูดบ้าง
"ไม่อยากจ่าย" พี่ชายฉันพูดต่อ
"ก็ถ้ามีทางอื่นให้เลือก" ฉันยิ้มเก้อๆ

ทางเลือกที่ฉันว่า คือการที่พี่ชายใช้สวัสดิการของข้าราชการ
ที่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ได้

"นี่แหละข้อดีของอาชีพรับราชการ
ถ้าปีที่แล้วทำตัวเป็นศิลปิน
อยากทำงานอิสระ ทนไม่ได้กับระบบ วันนี้ก็คง"

พี่สาวพูดราวกับจะสั่งสอนบรรดาน้องๆ
ที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง

เรื่องนี้ทำให้ฉันกลับมานั่งทบทวนกับตัวเอง
ทบทวนเพื่อวางแผนการป้องกัน
หากปัญหาแบบนี้มันเกิดขึ้นกับฉัน
หรือคนอื่นๆที่ฉันต้องรับผิดชอบ

ฉันจะต้องทำอย่างไร
เงินเก็บทั้งหมดจะหายไป
จะดำรงชีพอยู่อย่างไร






สวัสคะคุณเฟิง ดิฉัน...โทรจาก(ชื่อบริษัทประกัน)
ทางเรามีความยินดีเรียญเชิญคุณเฟิงเข้าร่วมประกันรายได้กับเรา
หากคุณเฟิงเข้าโรงพยาบาลเราจะจ่ายให้วันละสองพันบาท
ค่าผ่าตัดครั้งละสองหมื่นบาท
หากต้องพักรักษาตัวก็จะจ่ายคาชดเชยให้
วันละสองพันบาทติดต่อกันห้าร้อยวัน
ในกรณีที่เสียชีวิตจะจ่ายเงินเลี้ยงชีพให้เจ็ดแสนบาท
หากเกิดเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจะจ่ายเงินเลี้ยงชีพให้หนึ่งล้านสามแสนบาท

คุณเฟิงจ่ายเพียงวัยละยี่สิบเอ็ดบาท
จะรับความคุ้มครองหนึ่งปีหรือยาวถึงสิบปีก็ได้
ทางเราเรียนเชิญคุณเฟิงเป็นพิเศษ
ไม่ทราบว่าทางคุณเฟิงมีข้อกังวลอะไรหรือเปล่าคะ


พนักงานร่ายยาว


ไม่มีข้อสงสัยอะไรครับ
ฉันตอบ

งั้นเราจะส่งเอกสารไปให้คุณเฟิงเซ็นต์เลยนะคะ
เธอกล่าว

ขอเวลาตัดสินใจหน่อยนะครับ
ฉันปฏิเสธ

คุณเฟิงกังวลตรงไหนหรือเปล่าคะ
เธอย้ำ

เปล่าครับ
ฉันตอบ

งั้นทำไมยังไม่ตัดสินใจละคะ
เธอถาม

ก็ขอเวลาคิดหน่อยได้ไหมละครับ
ฉันถามบ้าง


ฉันกับเธอพูดประโยคทำนองนี้กับอีกหลายนาที
ฉันเธอว่าฉันสนใจ แต่ขอเวลาตัดสินใจ
แต่เธอแยกไม่ออกระหว่างการขอเวลาตัดสินใจกับความกังวลใจ

จริงๆ ปีละเจ็ดพันกว่าบาท
มันไม่ได้มากมายเลยสำหรับรายได้ที่ฉันรับ
แต่ฉันเองก็ยังไม่อยากจ่าย





From:...
Subject: ระดมทุน + เลือดช่วย...
Date: Tue, 20 Dec 2005 23:54:06 -0800 (PST)

เรื่อง - ระดมทุน + เลือดช่วยชบา

พี่ๆ เพื่อนๆ ที่รัก

คงได้ข่าวกันมาบ้างแล้วว่า (ชื่อคน สมมุติ ชื่อ นาย ซี)
ป่วยเป็นลูคีเมียชนิดเฉียบพลัน
สถานการณ์ตอนนี้คือ วันนี้ (21 ธ.ค.)ซียังอยู่ห้อง
R.C.U. โรงพยาบาลกรุงเทพ
เพื่อนๆและญาติกำลังพยายามหาทางย้ายชบาไปรพ.ของรัฐ

...ได้รับการถ่ายเลือดเร่งด่วนไปแล้ว 1 ครั้ง
และรับเคมีบำบัด (คีโม) อยู่ ซึ่งในระยะ 1 เดือนนี้เป็นช่วงวิกฤติ
หมอบอกว่าชบาต้องทำเคมีบำบัดอีก5 ครั้ง ซึ่งอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ว่าต้องใช้เงินมาก
และซีก็เป็นฟรีแลนซ์ ไม่มีสวัสดิการอย่างพนักงานประจำ
ได้ไปใช้บริการ 30 บาทรักษาทุกโรคมาแล้ว และไม่เวิร์ค

จึงอยากบอกข่าวเพื่อนๆ พี่ๆ ที่รู้จักและเป็นห่วงซีว่า
ตอนนี้ได้มีการเปิดกองทุนค่ารักษาซี
ในบัญชีของน้องสาวชบา

ชื่อ .....

นอกจากกำลังใจให้ซีแล้ว
อยากขอเชิญช่วยกันลงขันตามกำลังทรัพย์ มีมากช่วยมาก
มีน้อยช่วยน้อย

อีกอย่างนึงคือซียังต้องใช้เลือดอีกเยอะ
อยากเชิญชวนผู้มีเลือดกรุ๊ปโอ
ไปบริจาคเลือดที่สภากาชาดไทย


ระบุในแบบฟอร์มเลยว่าบริจาคให้ -นาย ซี-


ถ้ามีเลือดกรุ๊ปอื่นก็บริจาคได้เหมือนกันค่ะ
แล้วเขาจะไปแลกเลือดกันเอง แต่ถ้าเป็นกรุ๊ปโอ
ซีก็จะได้โดยตรง อ้อ...ผู้บริจาคต้องน้ำหนักเกิน 45
ก.ก. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และงดดื่มเหล้าเมายา 2
วันก่อนไปบริจาค

ฝากบอกต่อๆ กันไปด้วยนะคะ

ขอบคุณล่วงหน้าแทนชบาค่ะ
...



From : ...
Sent : Wednesday, December 21, 2005 3:56 PM
To : ...
CC : ...
Subject : เพื่อนเราคนหนึ่งเป็นลูคีเมีย


สวัสดีค่ะ
เพื่อนของเราคนหนึ่งเป็นลูคีเมีย
เราเคยได้รับฟอร์เวิร์ดเมลแบบนี้มาก็เยอะ อ่านแล้วลบทิ้งก็เยอะ ไม่อ่านแล้วลบทิ้งก็เยอะ
แต่ครั้งนี้ เราเพิ่งตระหนักว่า มันเป็นเรื่องที่สำคัญต่อชีวิตของคนหนึ่งคน
สำคัญต่อญาติพี่น้องของเขา และ สำคัญต่อเพื่อนๆที่รักเขา มากจริงๆ

ช่วยกันหน่อยนะคะ
...

ปล.พี่ซีจบจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร
จากนั้นก็ทำหนัง art/production design
หนังหลายๆเรื่อง เช่น ทวิภพ เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล แจ๋ว วัยอลวน ฯลฯ




- - - - - - - -


เช้าวันนี้ฉันได้รับจากเพื่อน
ฉันคิดเอาเองว่า
ฉันเข้าใจความรู้สึกของคนทั้งสองคนที่เมลล์มาให้
แต่ฉันก็คิดไปยิ่งกว่านั้น
(คนปากหมา ความคิดไม่ดีแบบฉัน)


พนักงานออฟฟิศ ข้าราชการ คนทำงานอิสระ
สิ่งที่ทุกคนต้องรับ ต้องเจอ ได้มาย่อมต่างกัน
และแน่นอน
ทุกคนก็ย่อมมีราคาที่จะต้องจ่าย

แล้วเมื่อถืงวันที่เราต้องจ่าย
ทุกคนก็มักจะโอดควรญแบบนี้

1 Comments:

At 10:08 PM, Anonymous Anonymous said...

นั่นสินะ
ขณะที่เราใช้ชีวิตอยู่นี่ เรามักไม่ค่อยคิดถึงอนาคตเหมือนกัน

ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ

 

Post a Comment

<< Home