หนังสามเรื่อง หนังสือสามเล่ม
ตั้งชื่อมันง่ายๆแบบนี้แหละ
หนังสือเล่มแรก : See You Again
เรื่องเล่าการเดินทางท่องเที่ยวของ ฐิติยา พจนาพิทักษ์
เธอเริ่มต้นด้วยการนั่งรถไฟจากกทมไปอุดรธานี
เข้าลาวทางเวียงจันทร์ เพื่อมุ่งสู่วังเวียง
จากนั้นก็เดินทางสู่หลวงพระบาง
เลยไปดูทุ่งไหหินที่เชียงขวาง
เข้าสู่เวียดนามที่เมืองวินห์
มุ่งสู่ฮานอย เที่ยวฮาลองเบย์
เลยขึ้นเหนือไปเที่ยวซาปา
แวะกลับลงมาใต้ที่เมืองเว้ ฮอยอัน
นั่งเครื่องบินสู่โฮจิมินท์
เข้าสู่กัมพูชา เมืองพนมเปญ
แล้วก็เข้าสู่เสียมเรียบ นครวัด
จึงกลับเข้าไทย
เส้นทางที่ว่ามาทั้งหมดเธอเดินทางคนเดียว
ภายในทริปเดียว ใช้เวลาเป็นเดือน
ผมต้องใช้ 3 ทริป สำหรับเส้นนี้
นอกจากลาวแล้ว ที่เหลือผมก็เที่ยวกับเพื่อนๆ
คำถามคือ ฐิติยา เป็นใคร
ทำไมเลือกเที่ยวแบบนี้
และทำไมจึงเลือกมาเขียนหนังสือเล่าให้คนอื่นอ่าน
คำตอบคือ ไม่รู้ 555
ฐิติยา เป็นผู้หญิงห้าวๆคนหนึ่ง
ที่เรียนคณะนิเทศแถวสามย่าน
ครั้งแรกที่รู้จักผู้หญิงคนนี้
ก็ตอนไปรับน้องชมรม ที่ต่างจังหวัด
เหมือนกับว่าเธอจะไม่เคยเปลี่ยน
แข็งนอก อ่อนใน
ผมรู้สึกว่าภูมิต้านทานเธอไม่น่าจะต่ำขนาดที่
ช่วงท้ายๆของการท่องเที่ยว
เธอเกิดอาการเป๋ๆ
โดยรวมของหนังสือเล่มนี้อ่านสนุกมาก
อ้อ เพิ่งรู้อีกเรื่องคือ เธอสนิทกับ เชาวเลข สร่างทุกข์
ก็ตอนที่ได้อ่านคำนิยมที่เขียนเอาใว้
นึกภาพออกเลยว่า วงสนทนา ของพวกเขาจะเป็นยังไง
หนังสือเล่มที่สอง : เสียดายคนอินเดียไม่ได้อ่าน
เขาเขียนนิยามใว้ว่า เมื่อเด็กติ๋มออกตามหาความ cool ไกลถึงชมพูทวีป
เขียนโดย ใบพัด
คำถาม : เขาไปไหนมาบ้าง เหรอ
คำตอบ : เดลี - ทัชมาฮาล- มะนาลี-ธรรมศาลา
คำถาม : เขียนดีไม๊
คำตอบ : อ่านเรื่องที่เพื่อนๆเล่าในเว็ปสนุกกว่า แถมรูปสวยกว่า
เพราะถิ่นที่เขาไปนะ เพื่อนๆในเว็ปเขาไปจนพรุนแล้ว
มีทั้งแบบไปแบบเท่ห์ๆ และไปแบบทัวร์เต็มรูปแบบ
มันเหมือนกับว่า เขาเขียนกันจนช้ำหมดแล้ว
แต่ก็อาจจะเหมาะกับเด็กแบบอะเดย์นะ
ปล. ใครถาม ใครตอบ และใครอยากรู้คำตอบไม่ทราบครับเพ่
หนังสือเล่มที่สาม : อัมสเตอร์ดัม เพื่อน และจักรยานที่ขโมยมา
กรกฎ พัลลภรักษา ชื่อนี้รับประกันงานเขียนแนวท่องเที่ยว
เล่มนี้ซื้อมานานแล้ว
เพิ่งได้มีโอกาสหยิบมาอ่าน
ระหว่างอ่านเพลิน ดูรูปสวยๆ
แล้วก็เพิ่งได้ความรู้ใหม่ว่า
เจ้าอาบอบนวดอัมสเตอร์ดัม ที่อยู่ตรงสี่แยกพระรามเก้า
หน้าตามันเหมือนอาคารที่ปรากฏในรูปของหนังสือเล่มนี้
สรุปคือ ถ้าอยากเห็นสถาปัตยกรรมแบบอัมสเตอร์ดัม
ก็ให้ไปดูอาบอบนวดที่ว่า 555
ไม่เกี่ยวกันเลยเนอะ
หนังเรื่องแรก : Transformer
ยังงง งง เหมือนกันว่า ทำไมอยากดูหนังเรื่องนี้
วันศุกร์ก่อนโน้นอุตส่าห์ไปทำตามกระแส
ไปถึงโรงหนังประมาณหกโมง รอบก่อนสองทุ่มครึ่ง ถูกจองเต็มหมดแล้ว
ดูหนังเสร็จ งง งง ต่อว่า
มันสนุกไม๊อะ
คือถามเอง
แต่ตอบไม่ได้
ถึงตอนนี้ผ่านมาสองอาทิตย์ก็ยังตอบไม่ได้ว่า
ตกลงมันสนุกไม๊อะ
ถามว่า มันไม๊
อาจจะตอบง่ายว่านะเนี่ย
งงๆ ว่าพวกหุ่นยนต์ฝั่งพระเอกนะ
ทำไม๊ ไม่เลือกแปลงเป็นอะไรที่เท่ห์ๆหน่อย
เลือกเป็นรถดับเพลิง รถบรรทุก
ในขณะที่พวกคนร้ายเลือกเป็นเครื่องบินไอพ่น
แต่ก็เนอะ เรื่องนี้มันสมัยเราเด็กๆนิ
สมัยนั้น ใครๆก็อยากมีหุ่นยนต์แบบนี้ทั้งน้านแหละ
รถบรรทุก ที่แปลงเป็นหุ่นยนต์ได้
โคตรล้ำเลย
แต่พอศอนี้ มันเชยเนอะ
ถ้าทำได้แค่นั้น
หนังเรื่องที่สอง : Die Hard 4
ก็เพราะได้ดูหนังตัวอย่างนั่นแหละ
ก็เลยทำให้อยากดูเรื่องนี้
ก็เล่นเอาเครื่องบินรบมาขับไล่พระเอกใต้ทางด่วน
แบบว่า มันบู๊แบบลูกทุ่งดี
ดูจบ ก็สรุปว่า มันไม่เป็นแบบหนังตัวอย่าง
พยายามจะทำหนังแฮกเกอร์
ซึ่งดูไม่ค่อยน่าเชื่อสักเท่าไหร่
ที่สนุกก็ส่วนที่บู๊แบบลูกทุ่งตามหนังตัวอย่างนั่นแหละ
หนังเรื่องที่สาม : Priceless
หนังฝรั่งเศส นางเอกเรื่องเอมิลี่
เป็นหนังตลกแบบฝรั่งเศสแน่ๆ
เพราะฝรั่ง(เศส)ที่นั่งถัดไปสองที่ ขำตลอดเวลา
เราก็ แหะ แหะ แหะ
เปิดมาตอนแรกนึกว่าจะมาแบบ พริตตี้ วู้เมน
หรือว่า ละครน้ำเน่าของไทย
ที่หลอกกันไป หลอกกันมา
ประมาณว่าเด็กเสิร์ฟ รักกับไฮโซ ทำนองนั้น
แต่หนังก็หักมุมพอไม่ให้เน่าเกินไป
รวมๆ ก็สนุกดี
หนังรสชาดอีกแบบ
ไม่หวานเลี่ยนแบบสไตล์ฮอลลีวูด
แต่ก็มีอารมณ์เสร่อๆ พอให้รู้สึกได้นะ
0 Comments:
Post a Comment
<< Home