Sunday, July 10, 2005

โลกคือละคร : หาปลา กลางสีลม



"จงสอนเขาหาปลา แทนที่จะนำปลาไปให้"

ฉันจำไม่ได้ว่าได้ยินประโยคทำนองนี้ครั้งแรกเมื่อไหร่
ฉันจำไม่ได้ว่าได้ยินประโยคทำนองนี้บ่อยแค่ไหน

ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่า
ประโยคข้างต้นสวยงามเกินทำได้เกินไปหรือเปล่า


"แปดบาทครับยาย"
พนักงานตอบด้วยไปหน้ายิ้มแย้ม ไม่มีแววโกรธกริ้วในดวงตา
"ปกติยายเคยซื้อแค่ หกบาทเอง"
ยายพูดด้วยน้ำเสียงของความไม่แน่ใจ
พร้อมกับชะงักไปชั่วครู่ เพราะเตรียมเงินใว้ในมือแค่หกบาท
"ที่นี้ขายแปดบาทครับยาย"
พนักงานยังมีท่าทีเป็นกันเองเหมือนเดิม
"ยายเคยซื้อหกบาท"
ยายคงแค่อยากบอกตัวเอง ไม่ได้ต้องการโต้เถียงพนักงาน
ยายช่างใจอีกชัวครู่ ก่อนจะความหาเงินในกระเป๋า

ฉันยืนมอง บทละครแห่งชีวิตจริง ที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ยายสวมเสื้อผ้าเก่าๆ สีมอๆ ซึ่งคงผ่านอะไรมามากเหมือนคนใส่
และแน่นอนว่า อะไรๆ ที่ผ่านมานั้นมันคงไม่ได้ผ่านมันมา
แบบสวยงามและง่ายดายทั้งคนใส่และเสื้อผ้า

ฉันเริ่มคิดไปเองว่า
วันนี้ยายอาจจะหาเงินได้มากกว่าที่จำเป็นจริงๆ
(ฉันไม่มีวันใช้คำว่า หาเงินได้มากกว่าความต้องการ
เพราะภาพที่เห็นฉันไม่เชื่อว่า ยาย จะเลือกแบบนั้นได้)
หาได้เกินมา 6 บาท และยายอยากให้รางวัลกับชีวิต
ด้วยการซื้อไวตามิลล์ กินสักหน่อย

แต่เมื่อต้องมาจ่ายเงินมันกลับเป็น 8 บาท
ยายอาจจะช่างใจว่าจะกินดีหรือเปล่า
และยายก็จำเป็นต้องควักธนบัตรใบละ 20 บาท
ที่ยายอาจจะเตรียมใว้สำหรับซื้อข้าวกินในวันพรุ่งนี้ ออกมาใช้

ฉันยิ่งคิดเกินไปอีกว่า
หากยายยังไม่ทานอะไรเลยละ
แล้วเงิน 6 บาท มันก็แค่พอจะซื้อได้แค่ ไวตามิลล์
ส่วน 20 บาทนั้นเก็บใว้ใช้พรุ่งนี้
เพราะยังไง วันนี้ก็ดึกแล้ว เดี่ยวก็นอน ไม่ต้องกินเยอะ

ฉันกำลังเข้าแถวต่อจากยายเพื่อจ่ายเงินเป็นค่าบัตรเครดิต
มูลค่าที่ต้องจ่าย มันมากกว่า 8 บาท ถึง 2000 เท่า
ฉันตั้งคำถามกับตัวเองว่า แล้วฉันละ กำลังทำอะไรอยู่
ฉันเอาเงินขนาดนี้ ไปทำอะไร
ทั้งที่ชีวิตของฉันมันก็ไม่ได้ต้องการอะไร ที่มันแตกต่างกับยายเลย
ฉันกำลังปรุงแต่งชีวิตของฉัน ด้วยอะไรกันหรือนี่

ยายต้องการแค่ 8 บาท เพื่อมื้อนี้
แล้วฉันละ มือละสามสีร้อย ฉันจ่ายให้ค่าอะไรกัน




ปกติเส้นทางที่ฉันเดินทางเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า
จะผ่านกลุ่มคนที่นั่งขายพวงมาลัย หรือดอกไม้

ฉันไม่ค่อยได้สังเหตุว่าหน้าตาคนขายเป็นยังไง
ฉันก็เหมือนคนเมืองหลวงส่วนใหญ่ ที่มองคนแบบเหมารวม
ไม่พยายามจะมองแยกแยะ ให้เห็นคน คนนั้นจริงๆ

แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
ฉันก็สังเกตุเห็นว่า ยาย คนในเหตุการณ์นั้น
เป็นหนึ่งในคนขายพวงมาลัย ดังกล่าวนั้นเอง

ฉันพยายามช่วยซื้อดอกจำปีจากยาย
แต่ก็พยายามซื้อ จากคนอื่นๆ ด้วยสลับกันไป
เพราะจำนวนคนขายก็เยอะ เกินกว่าที่ฉันจะซื้อจากทุกๆคน ทุกๆ วัน
ฉันยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้

ในวันนี้ใครบอกฉันว่า
"จงสอนเขาหาปลา แทนที่จะนำปลาไปให้"
ฉันจะเล่าเหตุการณ์นี้ให้เขาฟัง
แล้วจะถามว่า ฉันจะสอนเขาหาปลาได้ยังไง
หาปลากลางถนนสีลม นะเหรอ
ช่วยตอบฉันหน่อย เอาแบบรูปธรรมนะ
เพราะคนอย่างฉัน
ฝันมานานเกินไปแล้ว

0 Comments:

Post a Comment

<< Home