อารมณ์ขุ่น
โดยปกติแล้วผมพยายามจะเป็นคนใจเย็น
ที่ใช้คำว่าพยายามก็มีความหมายตามนั้นจริงๆ
เพราะรู้ตัวเองว่าเป็นคนใจร้อน และเอาแต่ใจตัวเอง
จึงต้องฝึกตัวเองให้เป็นคนใจเย็น
แต่ช่วงนี้อาการอารมณ์ขุ่นกำเริบบ่อย
ใครพูดจาไม่เข้าหูจะมีอารมณ์ไปซะหมด
ถ้าอายุมากกว่านี้อีกหน่อย
เขาอาจจะเรียกว่าวัยทอง
แต่เพราะเชื่อว่าตัวเองยังไม่ถึงขั้นนั้น
ก็เลยต้องคิดเอาเองอีกว่า
มาจากสาเหตุอื่น
ด้วยเวลาอันน้อยนิดประจำวัน
เพราะกิจวัตรประจำเจ็ดวันยังเหมือนเดิม
ตื่นขึ้นมาก็เข้าที่ทำงาน
สะสางงานต่างๆ
ปรึกษาหารืองานกับคนโน้นคนนี้
หรือบางทีก็วิจารณ์เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ไปซะงั้น
ตอนบ่าย
ถ้าไม่ออกไปประชุม
ก็จะไปนั่งทำงานที่สำนักงานสนาม
ตอนเย็นก็ไปทำงานฝิ่น
ซึ่งต้องถกประเด็น
และปรึกษาหารือกันตลอดเวลา
ประมาณสี่ทุ่มครึ่งก็ออกจากที่ทำงาน
นั่งแท็กซี่กลับที่พัก จัดการทำภาระกิจส่วนตัว
อาจจะเปิดคอมพ์นั่งทำงาน
หรืออ่านเอกสารต่างๆอีกสักหน่อย
แล้วก็เข้านอน
ซึ่งส่วนมากจะหลับคาเอกสาร
แค่คิดตามก็เหนื่อยแล้ว
หรือว่าสาเหตุของอาการอารมณ์เสียง่ายๆน่าจะมาจากสาเหตุนี้
เรียกว่าทำงานมากเกินไป
(หลีกเลี่ยงคำว่าทำงานหนัก เพราะงานที่ทำไม่ได้หนัก เพียงแค่มาก)
แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สาเหตุก็เป็นได้
เพราะว่าวงจรชีวิตแบบนี้ก็เป็นมานานแล้ว
กำลังสงสัยอีกสาเหตุคือ
อาการหลงตัวเอง
อาการนี้แก้ยาก แต่ต้องแก้
เพราะคนที่เป็นแบบนี้
ไม่น่าเข้าใกล้ด้วยประการละทั้งปวง
เพราะผมเจอคนแบบนี้มาเยอะ
มหาลัยที่จบมา
สร้างคนแบบนี้มาเต็มวงการ
ที่สงสัยว่าตัวผมเองจะเป็นแบบนี้
ก็เพราะบางครั้ง อารมณ์ขุ่น เกิดจากคำพูดของบางคน
ที่เราคิดว่าความคิดเห็นของเขาไม่ควรค่าแก่การฟัง
เราผ่านการหาข้อมูล และถกประเด็นเหล่านั้นกันมานานแล้ว
ความคิดเห็นเหล่านั้น มันไม่ควรเสียเวลามานั่งอธิบายกันอีกแล้ว
และส่วนใหญ่คนที่พูดแบบนั้น มักจะมีอาวุโสกว่าผมซะด้วย
ตอนนี้โดยส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุอารมร์บ่จอย (555 ศัพท์วัยทองมากๆ)
เกิดจากเหตุอย่างหลังมากกว่าอาการทำงานเยอะ
วันพรุ่งนี้ค่อยมาคิดต่อก็แล้วกัน
ว่าจะจัดการยังไง
เนื่องจากเวลามีน้อย
ต้องใช้สอยอย่างประหยัด
คิดไม่เสร็จพรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ
ทบทวนตัวเองวันละนิด
จิตแจ่มใส่
(คตินี้ก็โบราณมากๆนะเนี่ย 555)
0 Comments:
Post a Comment
<< Home